Friday, August 5, 2016

ชีวิตมีคุณค่า ด้วยเมตตาของพระคริสต์

ชีวิตมีคุณค่า ด้วยเมตตาของพระคริสต์

เมื่อรถไฟแล่นออกจากสถานีตามปกติได้สักครู่ ระหว่างจะเข้าสู่สถานีหนึ่งระหว่างทาง ได้เกิดอุบัติเหตุชนชายคนหนึ่งที่สติไม่ดี ทำให้ต้องหยุดรถกะทันหัน ปรากฎว่าชายสติไม่ดีนั้นขาขาด แต่ยังไม่เสียชีวิต จึงเกิดความชุลมุนขึ้น ต่างตะโกนให้โทรหามูลนิธิ และรถพยาบาลเพื่อมาช่วยนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ระหว่างนั้นก็มีเสีนงบ่นของผู้โดยสารบางคน ซวยชิบหาย ...ไปทำงานไม่ทันแน่ๆหลายคนทำหน้าตาหงุดหงิด เซ็ง ที่ตนเองต้องเสียนัด หรือเสียผลประโยชน์ส่วนตน 
เมื่อชาวบ้านที่อยู่ระแวกนั้นต่างมามุงดูเหตุการณ์ แล้วพูดถึงชายคนนี้ว่าเขาสติไม่ดี เที่ยวไปขอของชาวบ้านกิน แล้วบางครั้งก็เห็นเอามานั่งกินที่รางรถไฟ  พร้อมกับพูดด้วยความสมเพชถึงคนเจ็บว่า ตายเสียได้ก็ดี จะได้ไม่ต้องมารบกวนคนอื่น
หลังจากรถมูลนิธิได้มานำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล รถไฟก็สามารแล่นต่อไปได้ ผู้โดยสารที่บ่นๆต่างก็แสดงสีหน้าด้วยความยินดีออกมาอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่ายินดีที่ชายคนนั้นได้รับความช่วยเหลือ หรือยินดีที่ตนเองจะได้รีบไปทำธุระหรือไปทำงานเสียทีหลังจากที่เสียเวลามานาน ทำไมบางคนเห็นธุระเร่งด่วนของตนสำคัญกว่าชีวิตของคนๆหนึ่ง หรือชาวบ้านคนนั้นที่มากำหนดชีวิตของชายคนนี้ว่า ตายเสียได้ก็ดี
ชีวิตคนๆหนึ่งมันไร้ค่าขนาดนั่นเชียวหรือ แม้ว่าชายคนนั้นจะสติไม่ดี ดูมีฐานะทางสังคมที่ด้อยกว่าคนอื่น ไม่มีอาชีพที่เชิดหน้าชูตาเหมือนคนอื่น ต้องเก็บขยะ ต้องขอชาวบ้านกิน แต่เขาก็เป็นคนๆหนึ่งที่มีสิทธิเท่าเทียมที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกเช่นเราเหมือนกัน อย่าให้เราเห็นคนอื่นไร้ค่าหรือมีค่าน้อยกว่าเรา
โดยเฉพาะในสายพระเนตรของพระเจ้า เขาเป็นผู้ที่พระองค์ทรงรักมากเช่นเดียวกับที่ทรงรักเรา
พระธรรม มาระโก 5:1-20
พระธรรมตอนนี้ พระเยซูทรงรักษาชายที่ถูกผีสิง จากคาเปอรนาอูม พระเยซูกับเหล่าสาวกข้ามทะเลสาบกาลิลี ไปยังฝั่งเกราซา เมื่อเราอ่านพระธรรมตอนนี้ เราจะเห็นว่าพระองค์ทรงตั้งใจไปเพื่อภารกิจนี้อย่างเดียว พระองค์ทรงเห็นคุณค่าของคน มากกว่าทรัพย์สินเงินทองหรือเวลาที่จะต้องเสียไป
พระธรรมตอนนี้ได้ชี้ให้เราเห็นถึงชีวิต 4 แบบ คือ
1.     ชีวิตที่ไร้ค่า
- ใครรู้สึกว่าชีวิตตัวเองไร้ค่าบ้าง
- แต่คงไม่มีใครไร้ค่าเท่าชายที่ถูกผีสิงในพระคำตอนนี้
- เขามีพลังมาก แต่ต้องอยู่ลำพังตามอุโมงค์ฝังศพ
- เขาทำร้ายตัวเอง
- ผีใช้ร่างกายของมนุษย์ในทางที่เสียหาย เพื่อบิดเบือนและทำลายความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า และทำให้พระลักษณะของพระเจ้าในมนุษย์นั้นเสียไป แม้ในโลกปัจจุบัน ผีมารซาตานก็ยังสามารถสร้างความพินาศให้กับมนุษย์เช่นเดิม แต่วิธีการอาจจะเปลี่ยนไป เราจึงต้องรู้ทันกิจการชั่วของมัน อย่าให้มันหลอกเราว่าชีวิตของเราหรือคนอื่นใดนั้นไร้ค่า
- เป้าหมายของผีมารคือ เพื่อควบคุมคนที่มันสิงอยู่ เป้าหมายของพระเยซูคือ เพื่อปลดปล่อยมนุษย์จากความผิดบาปและจากการควบคุมของผีมาร
2.     ชีวิตที่มีค่ามากกว่าทุกสิ่ง
-          พระเยซูกับเหล่าสาวกนั่งเรือข้ามทะเลกาลิลีไปยังฝั่งตรงกันข้าม และพวกเขาได้เจอกับพายุ พระเยซูทรงห้ามพสยุ
-          ในพระคัมภีร์ไม่ได้บอกชัดเจนถึงพระประสงค์ของพระเยซูที่ทรงข้ามไปฝั่งโน้น แต่อ่านแล้วก็เห็นว่าพระองค์ไปเพื่อช่วยชายคนนี้ พระเยซูทรงทำพระราชกิจเพียงอย่างเดียว คือ ขับผีโสโครกออก แล้วก็กลับ
-          ฝั่งโน้นเป็นฝั่งที่ชาวต่างชาติอาศัยอยู่ เพราะชาวยิวไม่เลี้ยงหมู (ลนต 11.7)
-          แสดงว่าพระเยซูทรงให้ความสำคัญกับชายคนนี้มาก ในขณะที่คนส่วนใหญ่มองว่าเขาเป็นคนไร้ค่า
-          หากเราคิดในแง่ความคุ้มค่า เราอาจจะคิดว่าคุ้มหรือไม่ที่อุตส่าห์เดินทางมาไกล เพียงเพื่อช่วยเหลือชายผีเข้าเพียงคนเดียว (พระองค์มีคนติดตามมาก)
-          ไม่เพียงแต่ที่พระเยซูยอมอุทิศเวลาให้ชายคนนี้ พระองค์ยังเห็นว่าชีวิตของชายคนนี้มีค่ามากกว่าทรัพย์สินเงินทอง
-          กอง เป็นหน่วยใหญ่ที่สุดของกองทหารโรมัน กองหนึ่งอาจจะมีทหารถึง 3000 คน ผีมารรู้ว่ามันไม่มีอำนาจเหนือพระเยซู ฉะนั้นเมื่อมันเห็นพระองค์ ผีทั้งกองพลจึงอ้อนวอนพระองค์ไม่ให้ส่งมันไปนรกขุมลึก (ในลูกา 8.31) ให้อนุญาตให้มันไปสิงในฝูงสุกร พระองค์ก็ทรงยอม  พระองค์สามารถส่งพวกมันไปลงนรกขุมลึก แต่พระองค์ไม่ได้ทำเช่นนั้นเพราะยังไม่ถึงเวลาพิพากษา แต่ในท้ายที่สุดนั้น ผีมาทั้งหลายจะถูกทิ้งในบึงไฟนิรันดร์ (มัทธิว 25.41)
-          ใครทราบว่าสุกรตัวหนึ่งราคาเท่าไหร่
-          ราคาสุกรที่ฟาร์มโดยเฉลี่ยราคากิโลกรัมละประมาณ 70 บาท
-          สุกรขุนมีน้ำหนักประมาณ 100 กิโลกรัม
-          สุกร 1 ตัวจึงมีราคาประมาณ 7000 บาท
-          สุกร 2000 ตัว มีราคาประมาณ 14 ล้านบาท
-          มีคริสตจักรหรือองค์กรใดบ้างที่ยอมลงทุน 14 ล้านบาทเพื่อดวงวิญญาณ 1 ดวง
3.     ชีวิตที่ลดคุณค่า
-          เจ้าของสุกรแทนที่จะดีใจที่ชายที่ถูกผีสิงหายเป็นปกติพวกเขากลับตกใจและไม่พอใจกับสิ่งที่พระเยซูทำ (เหมือนชายที่สติไม่ดีถูกรถไฟทับ)
-          แทนที่พวกเขาจะต้อนรับพระเยซู แต่พวกเขากลับอ้อนวอนให้พระเยซูออกไปจากเมืองของพวกเขา พวกเขาคงกลัวว่าพระเยซูจะทำลายหมูของเขาอีก พวกเขายอมไม่เอาพระเยซูดีกว่าเสียรายได้ของเขา
-          พวกเขาเห็นคุณค่าของสุกรมากกว่าชายคนนั้น
-          พวกเราอาจจะรู้สึกเสียดายทรัพย์สินเงินทองของเราเช่นกัน ถ้าเราต้องเลือกระหว่างความรอดกับทรัพย์สินเงินทอง เราจะเลือกอะไร
-          เราอาจจะคิดว่าสุกรมีค่ามาก แต่เมื่อเทียบกับความรอดที่เราได้รับแล้วมันมีค่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
-          เราต้องตระหนักว่า เมื่อถึงวันที่พระเยซูคริสต์เสด็จกลับมาพิพากษาโลกนั้น  ทรัพย์สิ่งของทุกอย่างนั้นก็ไร้ค่าและจะถูกทำลายหมดสิ้น


4.     ชีวิตที่ทวีคุณค่า
-          ในพระธรรมตอนอื่นๆ พระเยซูมักจะเรียกสาวกให้ติดตามพระองค์และเมื่อมีเรือลำอื่นติดตามพระองค์มาด้วย พระองค์ก็ไม่ได้ว่าอะไร
-          เมื่อชายที่ถูกผีสิงขอติดตามพระองค์ไป พระองค์กลับไม่อนุญาต แต่สั่งให้เขากลับไปยังบ้านเมืองของเขาและให้บอกคนอื่นถึงเรื่องที่พระองค์ได้ทรงกระทำกับเขา
-          การรักษาครั้งอื่นๆ ส่วนมากพระเยซูจะตรัสกำชับในผู้ที่ได้รับการรักษาให้นิ่งเงียบไว้ แต่ทำไมครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งอื่น  อาจจะ
1.  ชายที่ถูกผีสิงอยู่โดดเดี่ยวมานาน พูดไม่ได้ การไปเล่าให้ผู้อื่นฟังถึงสิ่งที่พระเยซูทรงทำกับเขาเป็นการพิสูจน์ว่าเขาหายแล้ว อยู่ในสังคมได้
2.  ที่นี่เป็นเขตคนต่างาติ ประชาชนไม่รู้จักพระเจ้า ฉะนั้นจะไม่มีประชาชนมารุมเบียดเสียดพระองค์ หรือจะมีพวกผู้นำศาสนามาขัดขวางพระองค์
3.  เป็นการส่งชายผู้นี้ไปเผยแพร่ข่าวประเสริฐเกี่ยวกับพระราชกิจของพระองค์ไปยังคนต่างชาติ
-          เขาก็ได้ทำตามที่พระองค์บอก โดยไปประกาศทั่วแคว้นทศบุรี
-          ชายคนนี้ไม่ได้ฟังคำสอนของพระเยซู เขาเคยถูกผีสิง แต่บัดนี้เป็นแบบอย่างที่มีชีวิต ซึ่งแสดงถึงฤทธิ์อำนาจของพระเยซู
-          ไม่ได้เห็นการอัศจรรย์อื่นๆของพระเยซู
-          แต่ประสบการณ์ที่เขาได้รับจากการปลดปล่อยจากผีสิงก็เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ที่จะนำไปประกาศบอกเล่าให้คนมาสนใจเรื่องของพระเยซู
-          การที่พวกเราบางคนไม่ได้จบโรงเรียนพระคัมภีร์ ก็ไม่ได้เป็นเหตุให้เราไม่สามารถประกาศข่าวประเสริฐ
-          การที่พระเยซูไม่อนุญาตให้ชายคนนี้ติดตามพระองค์ไป แต่กลับสั่งให้เขากลับไปบอกเรื่องราวกับพวกของเขาเอง ทำให้คนอีกจำนวนมากได้รับพระพรของพระองค์
-          ชีวิตคนหนึ่งได้รับความรอด ก็สามารถทำให้เกิดพระพรอย่างทวีคูณต่อคนจำนวนมาก
-          หากเรามีประสบการณ์ในฤทธิ์อำนาจของพระเยซู เราก็สามารถเป็นแบบอย่างที่มีชีวิตได้ เราจะทำเหมือนชายคนนี้มั๊ย???
การประกาศ อย่าละเลยแม้มีเพียงคนคนเดียว
การประกาศไม่ใช่เรื่องยาก หากเรามีประสบการณ์ตรงกับพระเจ้า

สรุป  พระเมตตาคุณของพระเจ้ามีสำหรับทุกคน

No comments:

Post a Comment