ความเชื่อความศรัทธา
“ครั้นพระเยซูเสด็จเข้าไปในเขตเมืองซีซารียา ฟีลิปปี จึงตรัสถามพวกสาวกของพระองค์ว่า <<คนทั้งหลายพูดกันว่าบุตรมนุษย์เป็นผู้ใด>>”
มัทธิว 16:13 TH1971
สาวกได้ตอบตามสิ่งที่เขาได้ยินมา บ้างก็ว่าเป็นยอห์นผู้ให้บัดติดา บ้างก็ว่าเป็นเยเรมีย์ บ้างว่าเอลียาห์หรือไม่ก็เป็นหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาได้ยินมา เหมือนได้รับรู้ผ่านทางเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์หรือสื่อโซเชี่ยลในยุคนั้น แต่พระเยซูทรงถามพวกเขากลับไป
“พระองค์ตรัสถามเขาว่า <<แล้วพวกท่านเล่า ว่าเราเป็นใคร>>”
มัทธิว 16:15 TH1971
ซีโมนเปโตรทูลตอบว่า “พระองค์ทรงเป็นพระคริสต์พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” พระเยซูตรัสกับเขาว่า “ซีโมนบุตรโยนาห์เอ๋ย ท่านก็เป็นสุขเพราะว่ามนุษย์มิได้แจ้งความนี้แก่ท่าน แต่พระบิดาของเราผู้ทรงสถิตในสวรรค์ทรงแจ้งให้ทราบ ฝ่ายเราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร และบนศิลา นี้ เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้ และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้” (มัทธิว 16:16-18)
ครั้งแรกที่สาวกตอบพระเยซู ดูเหมือนว่าพวกเขาได้รับอิทธิพลจากสิ่งที่คนอื่นพูด เป็นความรู้ที่ได้รับผ่านการถ่ายทอดจากผู้อื่น แต่พระเยซูประสงค์ที่จะช่วยพวกเขาก้าวข้ามความรู้สึกที่ได้รับจากการถ่ายทอด เพื่อจะได้พบกับสิ่งที่พระเจ้าจะสำแดงกับเขาด้วยตัวเขาเอง
รากฐานของคริสตจักรแท้คือความเชื่อและความศรัทธาแบบเดียวกันกับเหล่าสาวกที่ได้เชื่อและวางใจในพระเยซูคริสต์ ซึ่งพวกเขาได้ตอบสนองการทรงสำแดงของพระเจ้าที่มาถึงพวกเขา คริสตจักรจึงเป็นชุมชนแห่งความเชื่อและความศรัทธา มีบรรยากาศแห่งการไว้วางใจพระเจ้าทั้งในการดำเนินชีวิตส่วนตัว และการเชื่อฟังเสียงพระเจ้าด้วยกันแบบส่วนรวมในคริสตจักร
“เพราะว่าในข่าวประเสริฐนั้น ความชอบธรรมของพระเจ้าก็ได้สำแดงออก โดยเริ่มต้นก็ความเชื่อ สุดท้ายก็ความเชื่อ ตามที่พระคัมภีร์มีเขียนไว้ว่า คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ” (โรม 1:17)
No comments:
Post a Comment