1.1
ผู้เขียน
อัครสาวกมัทธิวเป็นผู้เขียน
ก่อนที่ท่านจะติดตามพระเยซูคริสต์ท่านเป็นคนเก็บภาษีให้รัฐบาลโรม
(งานเก็บภาษีเป็นที่เกลียดชังของชาวยิวมาก เพราะพวกเขารับจ้างโรมันและทำตัวคล้ายโจร
เขาสามารถตีค่าสินค้าให้สูงขึ้นเพื่อจะได้เพิ่มภาษีของแต่ละคน
พวกนี้ส่วนมากร่ำรวยจากการเก็บภาษีเกิน ดังนั้นคนยิวจึงมองว่าพวกนี้เป็นคนขายชาติ
ทรยศและเป็นโจร) เขาตั้งด่านเก็บภาษีบนถนนที่คนเดินไปมาพลุกพล่านมัทธิวคงต้องเคยได้ยินเรื่องราวของพระเยซูอย่างแน่นอน
พระเยซูทรงทราบว่าถึงเวลาที่เขาพร้อมแล้วจึงเรียกเขาให้ตามพระองค์ไป
และมัทธิวก็ได้ละทิ้งทุกอย่างติดตามพระองค์
ยังได้เชิญชวนเพื่อนผู้เก็บภาษีด้วยกันหลายคนมาพบพระเยซู (มธ.9.10-13)
มัทธิวเป็นผู้เดียวที่บันทึกว่าพระเยซูทรงชำระภาษีที่พระวิหาร
(17.24-27) พระธรรมมาระโกและลูกาเรียกชื่อเขาว่า เลวี
1.2
จุดประสงค์
มัทธิวตั้งใจเขียนถึงชีวิตและพระราชกิจของพระเยซู
และในอีกด้านหนึ่งดูเหมือนมัทธิวตั้งใจเขียนเพื่อเป็นคู่มือแห่งหลักคำสอนของคริสตจักรด้วย
และเน้นคำสอนที่เกี่ยวกับพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์
ในการเริ่มต้นการบันทึกนั้นมัทธิวได้นำเสนอลำดับพงศ์ของพระเยซู
โดยลำดับตั้งแต่อับราฮาม-ดาวิด-พระเยซู เพื่อเน้นว่าพระเยซูทรงเป็นกษัตริย์
และเป็นพระเมสสิยาห์ที่พระคัมภีร์เดิมได้กล่าวถึงนั้น โดยพยายามเชื่อมโยงเรื่องในพันธสัญญาเดิมกับพันธสัญญาใหม่
มัทธิวชี้ให้เห็นว่าพระสัญญาของพระเจ้าเกี่ยวกับพระเมสสิยาห์ที่จะประทานมาให้นั้น
สำเร็จแล้วในพระเยซูคริสต์ผู้ทรงปรากฏเป็นจริงอยู่ท่ามกลางชาวยิวทั้งหลาย
1.3 ผู้รับ
มัทธิวบันทึกเป็นภาษากรีก ผู้รับคือชาวยิวที่พูดและใช้ภาษากรีก
สิ่งที่ทำให้รู้ว่ามัทธิวบันทึกเพื่อชาวยิวคือ ท่านได้อ้างพระคัมภีร์เดิมหลายครั้ง
มากกว่าผู้บันทึกเล่มอื่นๆ ท่านไม่ได้อธิบายธรรมเนียมบางอย่างของชาวยิว
และท่านได้ใช้ศัพท์เฉพาะของชาวยิว เช่น อาณาจักรสวรรค์ พระบิดาในสวรรค์
1.4
เวลาที่เขียน
เขียนขึ้นในปาเลสไตน์ เขียนในยุคต้นๆของอัครฑูต ประมาณ ค.ศ.50
ซึ่งเป็นช่วงของการประกาศกับชาวยิวเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตามมีบางกลุ่มเชื่อว่าพระธรรมมัทธิวและลูกานั้นได้ข้อมูลจากมาระโกซึ่งได้เขียนขึ้นก่อนระยะหนึ่งแล้ว
1.5
ลักษณะพิเศษ
พระธรรมมัทธิวมีลักษณะพิเศษเฉพาะของตนเอง คือ
- มีคำสอนที่เน้นมากเรื่ออนาคตศาสตร์
โดยเฉพาะคำอุปมาและเรื่องการสิ้นยุค (24.25,
28.20)
- พระเยซูทรงย้ำถึงพระเจ้าในฐานะพระบิดาเสมอ
-
คำสอนเรื่องแผ่นดินของพระเจ้าถูกเน้นเป็นเรื่องหลัก
ใช้คำว่า แผ่นดินสวรรค์
-
มัทธิวให้ความสนใจกับความสำเร็จของคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์เดิม
เช่น
-
การประสูติ (1.23) อิสยาห์ 7.14
- สถานที่ประสูติ (2.6) มีคาห์ 5.2
-
การเดินทางกลับจากอียิปต์ (2.15) โฮเชยา 11.1
-
การประหารเด็กทารกที่เบธเลเฮ็ม (2.18) เยเรมีย์ 31.15
-
การงานของผู้เตรียมทางให้พระองค์ (3.3) อิสยาห์ 40.3
-
สถานที่ทำงานของพระองค์ (4.15-16) อิสยาห์ 9.1-2
-
พันธกิจแห่งการรักษาโรค (8.17) อิสยาห์ 53.4
-
การดำเนินชีวิตในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า (12.18-21) อิสยาห์ 42.1-4
- การสอนเป็นคำอุปมา (13.35) สดุดี 78.2
-
การมอบชีวิตของพระองค์ (21.5) เศคาริยาห์ 9.9
- การถูกจับกุม (26.56)
-
พระกิตติคุณเล่มนี้มีเบื้องหลังความเป็นยิวที่เด่นชัด เน้นว่าพระคริสต์ทรงเป็นกษัตริย์ของเขา
- ให้ความสนใจต่อคนต่างชาติ
ถึงแม้ว่าพันธกิจที่พระเยซูสั่งให้เริ่มต้นที่พวกยิวก่อน (10.5-6, 15.24) แต่จากการแนะนำบรรดาโหราจารย์ที่มาเฝ้าพระกุมาร
ได้เผยให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมกับพระคริสต์ของมวลชนทั้งโลก
ซึ่งนำมาซึ่งการจบลงด้วยพระมหาบัญชา (28.19)
- เป็นพระกิตติคุณเล่มเดียวที่เน้นเรื่องคริสตจักร
(16.18,18.17) คือบรรดาผู้เชื่อทั้งยิว-ต่างชาติ
- คำสอนของพระเยซูถูกเน้นอย่างเด่นชัด
ได้แจกแจงคำสอนหลัก 5 ชุดของพระเยซูไว้ตลอด
เล่มซึ่งแต่ละชุดจะจบลงด้วยคำว่า
“ครั้นพระเยซูตรัสคำเหล่านี้เสร็จแล้ว”
1.
คำเทศนาบนภูเขา (5.3-7.27)
2.
คำกำชับสาวกสำหรับการรับใช้ของพวกเขา (10.5-42)
3.
คำอุปมาเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า (13.3-52)
4.
หน้าที่และความรับผิดชอบของการเป็นสาวก (18.3-35)
5.
คำสอนเกี่ยวกับอนาคต (24.4-25.46)
2. โครงเรื่องของพระธรรมมัทธิว
1. การบังเกิดและวัยเด็กของพระเยซู
(บทที่ 1-2)
1.1
ลำดับพงศ์ของพระเยซู บทที่
1.1-17
1.2 การบังเกิด บทที่
1.18-2.12
1.3 การเดินทางไปอียิปต์ บทที่
2.13-23
2. การเริ่มต้นพันธกิจของพระเยซู
(บทที่ 3-4.11)
2.1
ผู้เตรียมทางของพระองค์ บทที่ 3.1-12
2.2
การรับบัพติศมา บทที่ 3.13-17
2.3
การถูกทดลองของพระองค์ บทที่
4.1-11
3. พันธกิจของพระเยซูในกาลิลี
(บทที่ 4.12-14.12)
3.1
การเริ่มต้นประกาศในกาลิลี บทที่
4.12-25
3.2
คำเทศนาบนภูเขา บทที่
5-7
3.3
การอัศจรรย์ต่างๆของพระเยซู บทที่
8-9
3.4
การแต่งตั้งอัครสาวกทั้ง 12
คน บทที่
10
3.5
พันธกิจทั่วกาลิลี บทที่
11-12
3.6
คำอุปมาเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า บทที่ 13
3.7
การตอบสนองของกษัตริย์เฮโรด บทที่
14.1-12
4. การถอนตัวออกจากกาลิลี
(บทที่ 14.13-17.20)
4.1
สู่ชายฝั่งด้านตะวันออกของกาลิลี บทที่ 14.13-15.20
4.2
สู่โฟนีเซีย บทที่
15.21-28
4.3
สู่กาลิลีอีกครั้งหนึ่ง บทที่
15.29-16.12
4.4
สู่ซีซารียา ฟิลิปปี บทที่
16.13-17.20
5. พันธกิจสุดท้ายของพระเยซูในกาลิลี
(บทที่ 17.22-18.35)
5.1
การทำนายถึงการสิ้นพระชนม์ บทที่
17.22-23
5.2
การเสียภาษีให้พระวิหาร บทที่ 17.24-27
5.3
คำสอนเกี่ยวกับชีวิตในแผ่นดินของพระเจ้า บทที่
18
6. พันธกิจของพระเยซูในยูเดียและเพอเรีย
(บทที่ 19-20)
6.1
คำสอนเกี่ยวกับการหย่าร้าง บทที่
19.1-12
6.2
คำสอนเกี่ยวกับเด็ก บทที่
19.13-15
6.3
เศรษฐีหนุ่ม บทที่
19.16-30
6.4
คำอุปมาเรื่องคนงานในสวนองุ่น บทที่ 20.1-16
6.5
คำทำนายถึงการสิ้นพระชนม์ บทที่
20.17-19
6.6
คำร้องขอของมารดาของสาวก บทที่
20.20-28
6.7
รักษาคนตาบอดที่เมืองเยรีโค บทที่
20.29-34
7. สัปดาห์สุดท้ายของพระเยซู (บทที่ 21-27)
7.1
การเสด็จเข้าเยรูซาเล็มอย่างยิ่งใหญ่ บทที่ 21.1-11
7.2 การชำระพระวิหาร บทที่
21.12-17
7.3
การโต้แย้งกับผู้นำชาวยิว บทที่ 21.18-23.39
7.4
คำสอนที่ภูเขามะกอกเทศถึงการสิ้นยุค บทที่
24-25
7.5
การชโลมพระบาทของพระเยซู บทที่
26.1-13
7.6
การถูกจับ สอบสวนและการสิ้นพระชนม์ บทที่
26.14-27.66
8. การคืนพระชนม์ (บทที่ 28)
3. บทสรุป
คุณสมบัติของผู้ที่จะเข้าแผ่นดินสวรรค์ไม่ใช่เพราะความชอบธรรมของตนเอง แต่เป็นความชอบธรรมของพระเยซูคริสต์ต่างหาก
ผู้ที่รู้ตัวว่าบกพร่องฝ่ายวิญญาณจิตเท่านั้นจึงจะเข้าสู่แผ่นดินสวรรค์ได้
พระธรรมมัทธิวบอกว่าผู้ชอบธรรมเป็นผู้ที่มีความประพฤติชอบธรรม
แต่เขาไม่ได้ประพฤติชอบธรรมเพื่อจะได้กลายเป็นคนชอบธรรม ในมัทธิว 12.33 “พึงกล่าวอย่างใดอย่างหนึ่งว่า
ต้นดีผลก็ดี หรือต้นเลวผลก็เลวด้วย เราจะรู้จักต้นไม้ด้วยผลของมัน” พระธรรมข้อนี้ชี้ให้เห็นว่า
คนชอบธรรมความประพฤติก็ชอบธรรม คนบาปความประพฤติก็บาป คนบาปจะกลายคนชอบธรรมด้วยการประพฤติชอบธรรมก็หามิได้
มาตรฐานเรื่องความชอบธรรมของพระเจ้าสูงเกินเอื้อมสำหรับเราจริงๆ (มธ 5.48, โรม
4.1-8)
แต่เมื่อเราพึ่งการทรงช่วยของพระเจ้าที่ทรงทำให้เราเป็นคนชอบธรรมในพระเยซูคริสต์แล้ว
เราก็สามารถประพฤติอย่างชอบธรรมได้ เพราะชีวิตที่บาปได้ถูกเปลี่ยนเป็นชีวิตที่ชอบธรรมแล้วโดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าทางความเชื่อ
ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนักคือหลายครั้งที่เราได้ทำสิ่งที่ชอบธรรมไปโดยเรายังจำไม่ได้ด้วยซ้ำไป (มธ 25.37-39)
No comments:
Post a Comment