1.1
ผู้เขียน นายแพทย์ลูกาเป็นผู้เขียนและเป็นหนังสือที่คู่กับพระธรรมกิจการ
ลูกาเป็นคนต่างชาติโดยกำเนิด ชื่อของเขามีความหมายว่า สูงสง่า บ้านเกิดน่าจะเป็นเมืองอันทิโอกในซีเรีย
ได้รับการศึกษาอย่างดีในวัฒนธรรมกรีก เป็นผู้ร่วมงานกับเปาโลตั้งแต่การออกประกาศเที่ยวที่
2 จนถึงเมื่อเปาโลติดคุกที่กรุงโรม เป็นคนที่รักและจริงใจและอยู่กับเปาโลตลอดเวลาในขณะที่หลายคนจากไป
เรารู้ว่าลูกาเป็นแพทย์จากจดหมายฝากโคโลสี 4.14
ซึ่งเปาโลเรียกท่านว่า “ลูกาแพทย์ที่รัก”
ลูกาเป็นชาวต่างชาติเพียงคนเดียวที่เป็นผู้เขียนในพระคัมภีร์ใหม่
และในการบันทึกเป็นการใช้ภาษากรีกที่สละสลวยมีลักษณะการเขียนที่ดีมาก และลูกาได้ชื่อว่าเป็นนักประวัติศาสตร์คริสเตียนคนแรก
ในการเดินทางประกาศเที่ยวที่ 2 ของเปาโลนั้น เมื่อมาถึงเมืองฟิลิปปี
แคว้นมาซิโดเนีย (กจ. 16)
เปาโลได้ตั้งคริสตจักรที่นั่นและมอบหมายให้ลูกาเป็นผู้ดูแลระยะหนึ่ง
และเปาโลเดินทางประกาศต่อไป หลังจากนั้น 6 ปี ในการเดินทางประกาศเที่ยวที่ 3
เปาโลได้เดินทางมาที่ฟิลิปปีอีกครั้งหนึ่ง และลูกาได้ร่วมทางประกาศในครั้งนี้ด้วย
1.2
จุดประสงค์
ลูกาเขียนพระธรรมเล่มนี้เพื่อให้เธโอฟีลัสได้รู้ความจริงอย่างถูกต้อง
(1.4)
เพื่อให้รู้ว่าพระเยซูบังเกิดเป็นมนุษย์สมบูรณ์แบบ
และเป็นพระบุตรของพระเจ้าผู้ที่จะมาช่วยมวลมนุษย์ชาติให้รอดโดยเน้นถึงพระเมตตาของพระองค์ในการช่วยเหลือ
เอาใจใส่ผู้เล็กน้อยและต่ำต้อยที่สังคมดูถูก เช่น คนจนคนบาป คนเก็บภาษี คนต่างชาติ
ลูกาต้องการให้ผู้อ่านทราบว่า
ผู้ที่ติดตามพระเยซูไม่ได้เป็นอันตรายต่ออาณาจักรโรมัน ถึงอย่างไรก็ตาม
ลูกาไม่ได้จำกัดจุดประสงค์เพียงเท่านั้น ท่านยังได้เขียนหนุนใจผู้เชื่อและต่อต้านการโจมตีของผู้ไม่เชื่อ
ท่านต้องการแก้ไขข้อมูลผิดๆที่คนกล่าวถึงพระเยซูและคริสเตียน
ท่านยังต้องการชี้ให้เห็นว่าความเชื่อของคนต่างชาติในอาณาจักรของพระเจ้านั้นมีรากฐานอยู่บนคำสอนของพระเยซูคริสต์
และท่านยังต้องการนำเสนอข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์แก่คนทั้งโลก
1.3
ผู้รับ
ลูกาเขียนถึงท่านผู้หนึ่งชื่อ “เธโอฟีลัส”
(1.3) ซึ่งชื่อมีความหมายว่า ผู้ที่รักพระเจ้า
แต่น่าจะเป็นบุคคลมากกว่าความหมายกว้างๆทั่วไป
การใช้คำว่าที่เคารพอย่างสูงน่าจะแสดงถึงการมีตำแหน่งสูงและร่ำรวย
หรืออาจจะเป็นข้าราชการของโรม
และอาจจะเป็นผู้สนับสนุนลูกาและรับผิดชอบในการดูแลคัดลอกและแจกจ่ายสิ่งที่ลูกาเขียน
กลุ่มเป้าหมายของลูกาคงจะเป็นคนต่างชาติทั้งหมด
1.4
เวลาที่เขียน
ลูกาได้อ้างถึงหลายคนที่อุตส่าห์เรียบเรียงเรื่องราวของพระเยซู
(1.1) ซึ่งเชื่อได้ว่ามีผู้เรียบเรียงพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ก่อนที่ลูกาจะเขียนเล่มนี้
ซึ่งน่าจะเป็นพระธรรมมาระโกและมัทธิวหรืออาจจะมีฉบับอื่นๆด้วย
ท่านลูกาคงจะใช้หนังสือมาระโกประกอบการเขียนในราวปี ค.ศ.60-64
เพราะในกิจการก็ไม่ได้กล่าวถึงการตายของเปาโล เราเข้าใจว่าท่านเริ่มร่างเป็นหนังสือลูกาในขณะที่ท่านอยู่กับเปาโลที่กรุงโรม
(กจ.28.30) โดยเก็บรวบรวมข้อมูลที่เมืองซีซารียาขณะที่เปาโลถูกจองจำเป็นเวลา
2 ปี เพราะลูกามีเวลาไปที่ต่างๆเพื่อพบ
ศึกษาและเก็บข้อมูลจากพยานที่เห็นพระเยซูด้วยตนเอง
รวมทั้งข้อมูลตรงจากมารีย์และโยเซฟด้วย
1.5
ลักษณะพิเศษ
แม้จะมีความคล้ายคลึงกับพระธรรมมัทธิวและมาระโก
แต่ก็มีลักษะพิเศษคือ
-
มีความเป็นสากล
ให้เห็นถึงการยอมรับคนต่างชาติเช่นเดียวกับยิวในแผนการของพระเจ้า
3.6, สิเมโอน 2.32, 4.25-28, 7.9, 10.1, 13.29,
21.24, 24.47
- เพื่อทุกคน ชาวยิว ชาวต่างชาติ ชาวสะมาเรีย
คนเก็บภาษี คนบาป คนร่ำรวย คนยากจน
คนที่ถูกทอดทิ้ง คนที่มีหน้ามีตา
-
เน้นการอธิษฐานที่พระเยซูทรงอธิษฐานก่อนกระทำภารกิจต่างๆ เช่น
รับบัพติศมา 3.21
ทำการอัศจรรย์ 5.16, คัดเลือกสาวก 6.12,
จำแลงพระกาย 9.29, เกทเซมาเน 22.39-46
-
มีความห่วงใยต่อคนบาป พระเยซูเป็นเพื่อนของคนบาปในสายตาของคนทั่วไป
-
เน้นบทบาทของสตรีเป็นพิเศษ 1.24-56, 2.36-38, 7.11-18,
7.36-50, 8.1-3, 10.38-42
- เน้นบ่อยๆกับการใช้คำว่าบุตรมนุษย์
และเน้นเรื่องพระวิญญาณบริสุทธิ์
-
เน้นความเป็นครอบครัว (พันธกิจของพระเยซูเกี่ยวข้องกับผู้ชาย
ผู้หญิงและเด็กๆ)
7.12, 8.42, 9.38
2. โครงเรื่องของพระธรรมลูกา
1.
คำนำ (บทที่ 1.1-4)
2.
การเสด็จมาของพระเยซู (บทที่ 1.5-2.52)
2.1
การประกาศให้ทราบ บทที่
1.5-56
2.2
การเกิดของยอห์น บัพติศโต บทที่
1.57-80
2.3
การบังเกิดและวัยเยาว์ของพระเยซู บทที่
2
3. การเตรียมตัวเพื่อรับใช้ของพระเยซู
(บทที่ 3.1-4.13)
3.1
ผู้เตรียมทางของพระเยซู บทที่
3.1-20
3.2
การรับบัพติศมา บทที่
3.21-22
3.3
ลำดับพงศ์ของพระเยซู บทที่
3.23-28
3.4
พระเยซูทรงถูกทดลอง บทที่
4.1-13
4.
พันธกิจในกาลิลี (บทที่ 4.14-9.9)
4.1
การเริ่มต้นพันธกิจในกาลิลี บทที่
4.14-41
4.2
การเดินทางประกาศในกาลิลีเที่ยวแรก บทที่
4.42-5.39
4.3 ความขัดแย้งเรื่องวันสะบาโต บทที่
6.1-11
4.4
การเลือกอัครสาวกทั้ง 12 คน บทที่
6.12-16
4.5
คำเทศนาบนภูเขา บทที่
6.17-49
4.6
การอัศจรรย์ในคาเปอรนาอูมและนาอิน บทที่
7-1.17
4.7
คำร้องขอของยอห์น บัพติศโต บทที่
7.18-29
4.8
พระเยซูเผชิญหน้ากับฟาริสี บทที่
7.30-50
4.9
การเดินทางประกาศในกาลิลีเที่ยวที่สอง บทที่
8.1-3
4.10
คำอุปมาเรื่องแผ่นดินของพระเจ้า บทที่
8.4-21
4.11
การเดินทางข้ามทะเลกาลิลี บทที่
8.22-39
4.12
การเดินทางประกาศในกาลิลีเที่ยวที่สาม บทที่
8.40-9.9
5. การประกาศในแคว้นรอบๆกาลิลี
(บทที่ 9.10-50)
5.1
สู่ฝั่งทะเลด้านตะวันออกของกาลิลี บทที่
9.10-17
5.2
สู่ซีซารียาฟิลิปปี บทที่
9.18-50
6. พันธกิจในแคว้นยูเดีย
(บทที่ 9.51-13.21)
6.1
การเดินทางผ่านสะมาเรียไปยังยูเดีย บทที่
9.51-62
6.2
การรับใช้ของสาวก 70 คน บทที่
10.1-24
6.3
คำอุปมาเรื่องชาวสะมาเรียใจดี บทที่
10.25-37
6.4
พระเยซูกับมาธาและมารีย์ บทที่
10.38-42
6.5
การสั่งสอนในยูเดีย บทที่
11.1-13.21
7. พันธกิจในแคว้นยูเดียและเขตแดนรอบๆ (บทที่ 13.22-19.27)
7.1
เรื่องประตูแคบ บทที่
13.22-30
7.2
คำเตือนเกี่ยวกับกษัตริย์เฮโรด บทที่
13.31-35
7.3
ที่บ้านของคนฟาริสี บทที่
14.1-35
7.4
อุปมาเกี่ยวกับสิ่งที่หายไปแล้วได้คืน บทที่
15
7.5
คำอุปมาเกี่ยวกับคนต้นเรือนอสัตย์ บทที่
16.1-18
7.6
เรื่องเศรษฐีกับลาซารัส บทที่
16.19-31
7.7
คำสอนทั่วๆไป บทที่
17.1-10
7.8
คนโรคเรื้อน 10 คน บทที่
17.11-19
7.9
การมาของแผ่นดินของพระเจ้า บทที่
17.20-37
7.10
คำอุปมาเรื่องหญิงหม้ายและผู้พิพากษา บทที่
18.1-8
7.11
ฟาริสีและคนเก็บภาษี บทที่
18.9-14
7.12
พระเยซูกับเด็กๆ บทที่
18.15-17
7.13
เศรษฐีหนุ่ม บทที่
18.18-30
7.14 พระเยซูบอกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ บทที่ 18.31-34
7.15
ทรงรักษาคนขอทานตาบอดให้หาย บทที่
18.35-43
7.16
พระเยซูกับซักเคียส บทที่
19.1-10
7.17
อุปมาเรื่องเงิน 10 มินา บทที่
19.11-27
8.
ช่วงสุดท้าย-การยอมสละชีวิตและชัยชนะของพระเยซู
(บทที่ 19.28-24.53)
8.1
การเสด็จเข้าเยรูซาเล็มอย่างยิ่งใหญ่ บทที่
19.28-44
8.2
การชำระพระวิหาร บทที่
19.45-48
8.3 การโต้แย้งกับผู้นำชาวยิว บทที่
20
8.4
คำสอนที่พระวิหาร บทที่
21
8.5
พิธีมหาสนิท บทที่
22.1-38
8.6
พระเยซูอธิษฐานที่สวนเกธเซมาเน บทที่
22.39-46
8.7
การถูกจับกุม บทที่
22.47-65
8.8
การถูกสอบสวน บทที่
22.66-23.25
8.9
การถูกตรึง บทที่
23.26-56
8.10
การฟื้นคืนพระชนม์ บทที่
24.1-12
8.11
พันธกิจหลังการฟื้นคืนพระชนม์ บทที่
24.13-49
8.12
การเสด็จสู่สวรรค์ บทที่
24.50-53
4. บทสรุป
พระเจ้าทรงเรียกให้เรากลับใจใหม่
เราจะกลับใจใหม่ได้อยางไร ? เราคงไม่ต้องสารภาพบาปทั้งหมดของเรา
เพราะคงไม่สามารถจดจำได้ เพียงแต่เรายอมรับว่าเราเป็นคนบาป (18.13)
การกลับใจใหม่อาจจะแสดงออกด้วยความเศร้าโศกหรือไม่ไม่ใช่สิ่งสำคัญ
สำคัญที่เราจะต้องหันหลังให้กับการทำบาปและมาหาพระเจ้า
และแน่ใจว่าพระเยซูสามารถช่วยเราให้รอดได้
แต่พระเจ้าทรงอภัยให้เราจริงหรือ? แน่นอน ไม่มีข้อยกเว้น
ถ้าเรารู้สึกว่าเราไม่สำคัญพอ ไม่ร่ำรวยพอ ไม่ชอบธรรมพอที่จะได้รับการอภัยจากพระเจ้า
พระธรรมลูกานี่แหละจะทำให้เรามั่นใจว่า พระเยซูทรงให้อภัยคนบาปทุกคนที่มาหาพระองค์
และเมื่อเราแน่ใจว่าพระองค์เสด็จมาเพื่อตายไถ่คนทั้งโลกให้รอด
แล้วตัวเราพร้อมและเต็มใจที่จะทุ่มเททั้งชีวิต เวลา ทรัพย์สินเงินทอง
ตำแหน่งหน้าที่การงาน
เพื่อช่วยคนในโลกให้มาถึงพระเยซูคริสต์ตามพระประสงค์ของพระองค์แล้วหรือยัง ??
เกร็ดความรู้
- การอัศจรรย์ มีทั้งหมด 36 ครั้ง ในพระกิตติคุณ ปรากฏอยู่ในพระธรรมลูกา 20 ครั้ง และใน 20 เรื่องนี้มี 6 เรื่องที่มีเฉพาะในพระธรรมลูกา
1. การจับปลา
(5.1-11)
2.
บุตรหญิงม่ายที่นาอินเป็นขึ้น (7.11-17)
3.รักษาหญิงหลังโกง
(13.10-17)
4.
ชายที่เป็นโรคมานน้ำ (14.1-4)
5.คนโรคเรื้อน 10 คน
(17.11-19)
6.
ต่อหูของทหาร (22.49-53)
- คำอุปมา มีทั้งหมด 35 เรื่องในพระกิตติคุณ และมี 19 เรื่องที่มีเฉพาะในพระธรรมลูกา
1. ลูกหนี้ 2 คน 7.41-43
2.
ชาวสะมาเรียใจดี 10.25-37
3.
มิตรที่ต้องการความช่วยเหลือ 11.5-13
4.
เศรษฐีโง่ 12.13-21
5.
คนใช้ที่เฝ้าระวังอยู่ 12.35-40
6.
บ่าวที่สัตย์ซื่อ 12.41-48
7. ต้นมะเดื่อไม่มีผล
13.6-9
8. คำสอนสำหรับแขกและเจ้าของบ้าน
14.7-11
9. การเลี้ยงใหญ่
14.16-24
10.
การสร้างตึกไม่สำเร็จ 14.28-30
11.
สงครามที่ปราศจากการสู้รบ 14.31-33
12.
เงินเหรียญหาย 15.8-9
13. เรื่องบุตรหายไป
15.11-32
14.
คนต้นเรือนอสัตย์ 16.1-9
15. เศรษฐีกับลาซารัส
16.19-31
16.
หน้าที่ของคนใช้ 17.7-10
17. ผู้พิพากษาอธรรม
18.1-8
18.
ฟาริสีกับคนเก็บภาษี 18.9-14
19. เงินสิบมินา
19.11-26
No comments:
Post a Comment