Friday, October 4, 2013

การทดลอง


คริสตจักรของพระเยซูคริสต์ในยุคอัครฑูต เป็นคริสตจักรที่เข้มแข็งมั่นคง เติบโตและขยายออกไปอย่างรวดเร็ว มีการอัศจรรย์มากมายท่ามกลางผู้เชื่อ เกิดผู้นำที่มีความมั่นคงมากมาย รุ่นต่อรุ่น  ทำให้สังคมได้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างคริสตจักรและผู้ที่ไม่เชื่อ
แต่ท่ามกลางความเชื่อที่เข้มแข็งนั้นก็เกิดการข่มเหงอย่างมากมายเช่นเดียวกัน การทดลองในยุคสมัยนั้นค่อนข้างรุนแรงและน่าหวาดกลัว ไม่ว่าจะเป็นการตามล่า ตามฆ่า การถูกจับและถูกจองจำ การทรมานเพื่อให้ผู้เชื่อเหล่านั้นปฏิเสธพระนามของพระเยซู แต่เขาเหล่านั้นก็สามารถผ่านพ้นมาได้ และยังประกาศความเชื่อในพระนามนั้น เขามีชัยชนะต่อการทดลองต่างๆที่ถาโถมเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่า และได้ถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วยชีวิตของเขา

"คราวนั้นกษัตริย์เฮโรดได้เหยียดพระหัตถ์ออกทำร้ายบางคนในคริสตจักร ท่านได้ฆ่ายากอบพี่ชายของยอห์นด้วยดาบ เมื่อท่านเห็นว่าการนั้นเป็นที่ชอบใจพวกยิว ท่านก็จับเปโตรด้วย นี่เป็นระหว่างเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ เมื่อจับเปโตรแล้ว จึงให้จำคุก ให้ทหารสี่หมู่ๆละสี่คนคุมไว้ ตั้งใจว่า เมื่อสิ้นเทศกาลปัสกา แล้วจะพาออกมาให้แก่คนทั้งหลาย เพราะฉะนั้นเปโตรจึงถูกจำไว้ในคุก แต่ว่าคริสตจักรได้อธิษฐานพระเจ้าเพื่อเปโตรด้วยใจร้อนรน ในคืนวันนั้นเอง ครั้นเฮโรดจะพาเปโตรออกมา เปโตรนอนหลับอยู่ระหว่างทหารสองคน มีโซ่สองเส้นล่ามไว้ และคนยามเฝ้าอยู่หน้าประตูคุก ดูเถิด มีทูตองค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏ และมีแสงสว่างส่องเข้ามาในห้องจำ ทูตองค์นั้นจึงกระตุ้นเปโตรที่สีข้างให้ตื่นขึ้นแล้วว่า "ลุกขึ้นเร็วๆ" โซ่นั้นก็หลุดตกจากมือของเปโตร ทูตนั้นจึงสั่งเปโตรว่า "จงคาดเอวและสวมรองเท้า" เปโตรก็ทำตาม ทูตจึงสั่งว่า "จงสวมเสื้อและตามเรามาเถิด" เปโตรจึงตามออกไป และไม่รู้ว่าการซึ่งทูตทำนั้นเป็นความจริง คิดว่าได้เห็นนิมิต เมื่อออกไปพ้นทหารยามชั้นที่หนึ่งและที่สองแล้ว ก็มาถึงประตูเหล็กที่จะเข้าไปในเมือง ประตูนั้นก็เปิดเองให้ท่านทั้งสอง ท่านจึงออกไปเดินตามถนนแห่งหนึ่ง และในทันใดนั้นทูตสวรรค์ก็ได้อันตรธานไปจากเปโตร ครั้นเปโตรรู้สึกตัวแล้วจึงว่า "เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้ารู้แน่ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงใช้ทูตของพระองค์มาช่วยข้าพเจ้า ให้พ้นจากอำนาจของเฮโรด และพ้นจากการมุ่งร้ายของพวกยิว" เมื่อเปโตรคิดอย่างนั้นแล้ว ก็มาถึงตึกของมารีย์ มารดาของยอห์นผู้มีชื่ออีกว่ามาระโก ที่นั่นมีหลายคนได้ประชุมอธิษฐานกันอยู่ พอเปโตรเคาะประตูเล็กในประตูบ้าน มีหญิงสาวคนหนึ่งชื่อโรดามาฟังดู เมื่อจำได้ว่าเป็นเสียงของเปโตร เพราะความชื่นชมยินดีก็ยังไม่เปิดประตู แต่วิ่งเข้าไปบอกว่าเปโตรยืนอยู่หน้าประตู คนเหล่านั้นจึงพูดกับหญิงนั้นว่า "เจ้าเป็นบ้า" แต่หญิงคนนั้นยืนคำว่าเป็นอย่างนั้นจริง เขาทั้งหลายจึงว่า "เป็นเทวทูตประจำตัวเปโตร" ฝ่ายเปโตรยังยืนเคาะประตูอยู่ เมื่อเขาเปิดประตูเห็นท่าน ก็อัศจรรย์ใจ แต่เปโตรโบกมือให้เขานิ่ง และเล่าให้เขาฟังถึงเรื่องที่ องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงพาท่านออกจากคุกอย่างไร แล้วท่านสั่งว่า "จงไปบอกเรื่องนี้แก่ยากอบกับพวกพี่น้องให้ทราบ" เปโตรจึงออกไปเสียที่อื่น " (กิจการ 12:1-17)

เมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่จะต้องเลือก ระหว่างความตายกับการยืนหยัดในความเชื่อ แม้แต่ยากอบซึ่งเป็นผู้นำแห่งความเชื่อของเขาก็ยังถูกประหาร ผู้เชื่อในยุคแรกเขาผ่านพ้นมาได้อย่างไร

1. การอธิษฐาน

    1.1 เห็นความสำคัญของการอธฺิษฐาน
          เมื่ออยู่ในเหตุการณ์ที่ไม่น่ารื่นรมย์ ทุกข์ใจ อยู่ในอันตราย ไม่มีทางออก สูญเสียบางสิ่งบางอย่าง การอธิษฐานเป็นสิ่งที่จะต้องมาก่อนเป็นอันดับแรก อธิษฐานด้วยท่าทีที่ถูกต้อง ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเหตุการณ์นั้น ไม่ใช่ต่อว่าพระองค์ ต้องนั่งลงวิงวอนขอการช่วยกู้จากพระเจ้าด้วยความเชื่อว่าพระองค์ทรงสดับและทรงตอบเรา (มัทธิว 6:8)

    1.2 ยืนหยัดในการอธิษฐาน
          คุณค่าของการอธิษฐานไม่ใช่แค่ว่าได้อธิษฐานแล้วเท่านั้น แต่อยู่ที่ว่าได้อธิษฐานมากเท่าใด ได้อ้อนวอนต่อพระองค์ด้วยจริงใจหรือไม่ พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างสำหรับเราในการอธิษฐานในขณะที่พระองค์มีความทุกข์อย่างแสนสาหัส พระองค์ได้อ้อนวอนต่อพระเจ้าถึง 3 ครั้ง ในเวลาเดียวกัน แม้ระหว่างนั้นเหล่าสาวกจะง่วงและหลับไป
".......จึงเสด็จกลับมายังสาวกเหล่านั้น เห็นเขานอนหลับอยู่ และตรัสกับเปโตรว่า "เป็นอย่างไรนะ ท่านทั้งหลายจะคอยเฝ้าอยู่กับเราสักทุ่มเดียวไม่ได้หรือ ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังและอธิษฐาน เพื่อท่านจะไม่ต้องถูกทดลอง จิตใจพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง" (อ่าน มัทธิว 26:36-46)

    1.3 เพื่อนร่วมอธิษฐาน
          เมื่อเปโตรถูกจับ พวกเขาไม่ได้มอบหมายให้ผู้หนึ่งผู้ใดทำหน้าที่อธิษฐานเผื่อเปโตร หรือไม่ได้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ปกครองที่จะต้องรับผิดชอบ แต่พวกเขาได้ร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันตั้งแต่คนเล็กน้อยที่สุดจนถึงผู้ปกครอง ภาพที่เกิดขึ้นคือทั้งคริสตจักรร่วมรับผิดชอบ เราทุกคนจะต้องร่วมอธิษฐานเพื่อให้ผู้ที่ตกอยู่ในการทดลองนั้นได้ลุกขึ้นยืนอีกครั้งหนึ่งให้ได้  "จงช่วยรับภาระของกันและกัน ท่านจึงจะได้ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระคริสต์" (กาลาเทีย 6:2)

2. การช่วยกู้

    2.1 รับการปลดปล่อย
          เปโตรเป็นผู้ที่ตกอยู่ในการทดลอง แต่กลับนอนหลับสบายและหลับสนิท เพราะเขามีความเชื่อและมั่นใจว่าพระเจ้าเป็นผู้ควบคุมสิ่งทั้งปวงที่เกิดขึ้น พระเจ้าทรงใช้ฑูตสวรรค์มาทำหน้าที่ตามคำบัญชา โดยไม่ต้องอาศัยน้ำมือมนุษย์มาเดินขบวนแก่งแย่งชิงเอา แต่เกิดจากพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่  ในสถานะการณ์เช่นนี้ที่เรากำลังตกในความกลัวเพราะการทดลอง พระเจ้าทรงทราบและเข้าใจ และพระองค์ทรงรู้ว่าจะช่วยเราอย่างไร ด้วยวิธีการใด

    2.2 มีความชื่นชมยินดี
          แปลกมากที่เขาร่วมอธิษฐานอย่างร้อนรน แต่กลับไม่ได้เชื่อว่าพระเจ้าจะทรงตอบคำอธิษฐานอย่างรวดเร็วอย่างนั้น เขาไม่อยากจะเชื่อ แต่ก็มีความชื่นชมยินดีในการช่วยกู้
          ให้เราตระหนักและชื่นชมยินดีว่าพระเจ้าทรงมีพระประสงค์ที่จะช่วยเราเสมอด้วยวิธีการของพระองค์

    2.3 พระเจ้าได้รับเกียรติ
          เมื่ออยู่ในการทดลอง ถ้าเราคิดจะสู้ และยืนหยัดสู้กับการทดลองนั้นด้วยความเชื่อ พระเจ้าจะได้รับเกียรติ และพระองค์จะทรงสำแดงความยิ่งใหญ่ของพระองค์ เพื่อให้เรามีความมั่นใจในการทรงช่วยกู้ แน่นอน ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าเพียงพอที่จะช่วยกู้เราให้ผ่านพ้นการทดลองนั้นได้อย่างแน่นอน

เมื่อการทดลองเกิดขึ้นกับเราไม่ว่าขณะใด ให้เรารีบเข้าหาพระเยซู วางปัญหาที่เกิดขึ้นไว้กับพระองค์ เพราะพระองค์มีวิธีการที่ยอดเยี่ยม มีเวลาที่เหมาะสม แผนการณ์ของพระองค์ไม่เคยผิดพลาดแม้แต่ครั้งเดียว วางใจในพระองค์ตั้งแต่วันนี้ แล้วเราจะเห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์

พระเจ้าอวยพร

วิจิตร วารินทร์ศิริกุล

No comments:

Post a Comment