Tuesday, December 20, 2011

เข้าเฝ้าพระเจ้า

ถ้าเรามีโอกาสได้เข้าเฝ้ากษัตริย์หรือคนที่มีชื่อเสียง คงจะรู้สึกตื่นเต้น ยิ่งถ้าเป็นคนที่เราให้ความรัก เทิดทูน ก็ยิ่งจะทำให้เรารู้สึกภาคภูมิใจ เราคงจะเตรียมตัวเป็นอย่างดี แต่งชุดที่สวยงามที่สุด เพื่อแสดงถึงความรักและการให้เกียรติแก่บุคคลนั้น มากยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด เมื่อเราเข้าเฝ้าพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และบริสุทธิ์ เราก็ยิ่งจะต้องเตรียมตัวให้เหมาะสมเพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฝ่ายโมเสสเมื่อเลี้ยงฝูงแพะแกะของเยโธรพ่อตาผู้เป็นปุโรหิตของคนมีเดียน ได้พาฝูงแพะแกะไปทางตะวันตกของถิ่นทุรกันดาร จนมาถึงภูเขาของพระเจ้าคือ โฮเรบ
ทูตของพระเจ้าก็ปรากฏแก่โมเสสท่ามกลางพุ่มไม้เป็นเปลวไฟ โมเสสมองดู เห็นพุ่มไม้นั้นมีไฟลุกโชนอยู่ แต่มิได้ไหม้โทรมไป
โมเสสจึงว่า "ข้าจะแวะเข้าไปดู สิ่งแปลกประหลาดนี้ ว่าเหตุไฉนพุ่มไม้จึงไม่ไหม้"
ครั้นพระเจ้าทอดพระเนตรเห็นเขาเดินเข้ามาดู จึงตรัสออกมาจากพุ่มไม้นั้นว่า "โมเสส โมเสสเอ๋ย" โมเสสทูลตอบว่า "ข้าพระองค์อยู่ที่นี่"
พระองค์จึงตรัสว่า "อย่าเข้ามาใกล้ที่นี่ ถอดรองเท้าของเจ้าออกเสีย เพราะว่าที่ซึ่งเจ้ายืนอยู่นี้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์"
แล้วพระองค์ตรัสอีกว่า "เราเป็นพระเจ้าของบิดาเจ้า เป็นพระเจ้าของอับราฮัม พระเจ้าของอิสอัค และพระเจ้าของยาโคบ" โมเสสปิดหน้าเสีย เพราะกลัวไม่กล้ามองดูพระเจ้า
พระเจ้าตรัสว่า "เราเห็นความทุกข์ของประชากรของเราที่อยู่ในประเทศอียิปต์แล้ว เราได้ยินเสียงร้องของเขา เพราะการกดขี่ของพวกนายงาน เรารู้ถึงความทุกข์ร้อนต่างๆ ของเขา
เราลงมาเพื่อจะช่วยเขาให้รอดจากมือชาวอียิปต์ และนำเขาออกจากประเทศนั้น ไปยังแผ่นดินที่อุดมกว้างขวาง เป็นแผ่นดินที่มีน้ำนม และน้ำผึ้งไหลบริบูรณ์ คือไปยังที่อยู่ของชาวคานาอัน คนฮิตไทต์ คนอาโมไรต์ คนเปริสซี คนฮีไวต์ และคนเยบุส
บัดนี้คำร่ำร้องของชนชาติอิสราเอลมาถึงเราแล้ว ทั้งเราได้เห็นการบีบคั้นซึ่งชาวอียิปต์กระทำต่อเขาแล้ว
เราจะใช้เจ้าไปเฝ้าฟาโรห์ เพื่อจะได้พาประชากรของเราคือชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์"  (อพยพ 3:1-10)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เวลานี้ โมเสสกำลังจะได้เข้าเฝ้าบุคคลที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา เพราะการพบกันครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการพบกันครั้งแรกเท่านั้น แต่การพบกันครั้งนี้ยังได้เปลี่ยนชีวิตของโมเสสจากคนเลี้ยงแกะผู้ต่ำต้อย สู่การเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้า

พระเจ้าทรงให้โมเสสถอดรองเท้า เพราะที่ที่เขายืนอยู่นั้นเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งแท้ที่จริงโมเสสเดินผ่านสถานที่นั้นมาแล้วหลายครั้ง เพราะเป็นสถานที่ที่เขาเลี้ยงฝูงแกะของเขาตลอดระยะเวลา 40 ปี สถานที่ที่เคยเป็นที่ธรรมดา แต่เมื่อพระเจ้าทรงสถิตอยู่ที่นั่น สถานที่นั้นก็จะกลายเป็นที่ที่บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ เพราะพระองค์ทรงบริสุทธิ์

โมเสสเอามือปิดหน้า เพราะเกรงกลัวไม่กล้ามองพระเจ้า คุณอาจเคยมีประสบการณ์จ้องมองที่ผ้าขาวผ่านแสงแดดซึ่งสะท้อนแสงทำให้คุณแสบตา หรือคุณไม่สามารถจ้องมองแสงแดดจ้าโดยตรงจากดวงอาทิตย์เพราะอาจจะทำให้ตาบอดได้ โมเสสในขณะนี้ก็เช่นเดียวกัน เขาไม่กล้าจ้องมองพระเจ้าได้เพราะพระองค์ทรงบริสุทธิ์
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คริสเตียนต้องเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยความยำเกรง เพราะพระองค์ไม่เพียงแต่เป็นพระเจ้าที่ทรงเปี่ยมด้วยความรักและเมตตาเท่านั้น แต่พระเจ้าทรงบริสุทธิ์และเป็นพระเจ้าแห่งการพิพากษาด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คริสเตียนมากมายในปัจจุบันเข้าเฝ้าพระเจ้าแบบตามใจตัวเอง เช่น บางคนไปโบสถ์สาย บางคนละเลยการเฝ้าเดี่ยว บางคนแต่งตัวไปโบสถ์อย่างไม่เหมาะสมสำหรับสถานนมัสการ และหลายครั้งการนมัสการในคริสตจักรขาดระเบียบ เราอาจจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่สำคัญและไม่ใช่เรื่องผิด แต่การกระทำบางอย่างทำให้พระเจ้าไม่ได้รับเกียรติ หากเราไม่ได้สัมผัสกับความบริสุทธิ์ของพระเจ้าอย่างแท้จริงเหมือนที่โมเสสได้สัมผัส เราก็มีแนวโน้มที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้าตามวิธีการของเราและปราศจากการยั้งคิด

ให้เราใคร่ครวญดูว่า เราได้แสดงออกถึงความยำเกรงพระเจ้าหรือยังในการเข้าเฝ้าพระองค์

No comments:

Post a Comment