Wednesday, December 21, 2011

อดทนเพื่อพระคริสต์

ชื่นชมยินดีในการรับใช้ แม้ต้องอับอายและยากลำบาก (กิจการ 5:12-42)

ในสมัยคริสตจักรยุคแรก มีทาสสาวผู้เชื่อคนหนึ่งเธอถูกทารุณกรรมอย่างหนัก เพียงเพื่อให้เธอประกาศว่า ซีซาร์คือพระเจ้าเท่านั้น ทาสสาวคนนี้ได้แต่บอกตัวเองว่า เราไม่ได้ทำอะไรผิด    พระเยซูทรงเป็นพระเจ้า พระองค์ผู้เดียวเท่านั้นทรงเป็นพระเจ้า และเธอก็ถูกทรมานจนตาย  มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมากมายกับผู้เชื่อในพระเยซูคริสต์ จักรพรรดิ์เนโรเป็นผู้หนึ่งที่ได้ข่มเหงผู้เชื่ออย่างหนักในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นการจำจอง การเฆี่ยนตี โยนลงในกรงสัตว์ที่ดุร้าย หรือให้ต่อสู้กับสิงโต
เหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา เราอาจจะรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม เหมือนทาสสาวคนนั้นที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย และบ่อยครั้งที่เพราะเราเป็นคริสเตียน เราจึงต้องยอมรับสภาพเช่นนั้นด้วย ในพระธรรมกิจการเป็นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดในยุคคริสตจักรเริ่มต้น มีหลายเหตุการณ์ที่เป็นแบบอย่างที่เราจะเรียนรู้ในการอดทนเมื่อเรารับใช้พระเจ้า
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฝ่ายเปโตรกับอัครทูตอื่นๆตอบว่า "ข้าพเจ้าจำต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์
พระเยซูซึ่งท่านทั้งหลายได้ฆ่าเสียโดยแขวนไว้ที่ต้นไม้นั้น พระเจ้าแห่งบรรพบุรุษของเราได้ทรงบันดาลให้เป็นขึ้นมาใหม่
พระเจ้าได้ทรงตั้งพระองค์ไว้ที่พระหัตถ์เบื้องขวาของพระองค์ ให้เป็นองค์พระผู้นำและองค์พระผู้ช่วยให้รอด เพื่อจะให้ชนอิสราเอลกลับใจใหม่ แล้วจะทรงโปรดยกความบาปผิดของเขา
เราทั้งหลายจึงเป็นพยานถึงเรื่องเหล่านี้ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ซึ่งพระเจ้าได้ทรงประทานให้ทุกคนที่เชื่อฟังพระองค์นั้น ก็เป็นพยานด้วย"
เมื่อเขาทั้งหลายได้ยินอย่างนี้โทโสก็พลุ่งขึ้น คิดกันว่าจะฆ่าพวกอัครทูตเสีย (กิจการ 5:29-33)
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เหล่าอัครทูตได้กระทำหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ  รักษาคนเจ็บป่วยและคนพิการมากมาย รวมทั้งสิ่งที่พวกเขาประกาศแก่ประชาชนนั้นขัดแย้งกับความเชื่อในศาสนายิว พวกสะดูสีนั้นไม่เชื่อเรื่องการฟื้นขึ้นจากความตาย แต่เหล่าอัครทูตได้ประกาศว่าพระเยซูคริสต์ทรงฟื้นขึ้นจากความตาย และพระเยซูทรงเป็นพระมาซีฮาพระผู้ช่วยให้รอด เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และประชาชนได้เข้ามาเชื่อเป็นจำนวนมาก  ทำให้พวกที่เคร่งศาสนากลัวว่าผู้คนจะหันไปเชื่อพระเยซูกันหมด
ตอนแรกเขาจับอัครทูตไปขังคุกด้วยหวังว่าการทำเช่นนี้จะทำให้อัครทูตกลัวและหยุดประกาศไปเอง แต่พระเจ้าได้ทรงช่วยพวกเขาออกมาโดยอัศจรรย์ และเหล่าอัครทูตยืนยันหนักแน่นว่า พวกข้าพเจ้าต้องเชื่อฟังพระเจ้ายิ่งกว่าเชื่อฟังมนุษย์ซึ่งเป็นเหมือนการเอาน้ำมันสาดเข้าไปในกองไฟ ทั้งอัครทูตยังได้ประกาศกับพวกผู้นำศาสนาถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ ซึ่งเป็นการแสดงถึงความไม่หวั่นเกรงต่อผู้นำศาสนา เพราะเขาเชื่อในการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ว่าเป็นฤทธิ์อำนาจช่วยให้คนรอดบาปได้ เมื่อใดก็ตามที่คนมั่นใจในสิ่งที่ตนเชื่อ เขาก็จะยอมตายเพื่อสิ่งนั้น
ผู้นำศาสนาเหล่านั้นเชื่อในเหตุผลของกามาลิเอลว่า ถ้าสิ่งที่พวกอัครทูตทำไม่ใช่พระประสงค์ของพระเจ้า เขาก็จะเลิกล้มไปเอง แต่ถ้าสิ่งนี้มาจากพระเจ้าจริงและพวกเขาไปขัดขวาง ภัยก็จะมาถึงพวกเขาได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงสั่งเฆี่ยนพวกอัครทูตแล้วก็ปล่อยตัวไป  พวกอัครทูตรู้สึกชื่นชมยินดีที่ได้ประกาศพระนามของพระเยซูคริสต์ แม้ว่าจะเจ็บตัวและอับอาย

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เราต้องยอมเสียสละสิ่งใดบ้างเมื่อเรายึดมั่นในการรับใช้ เช่น เวลา ทรัพย์สินเงินทอง ประโยชน์ส่วนตัว ความเป็นส่วนตัว ชื่อเสียง หรืออื่นๆ
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ในการดำเนินชีวิตประจำวันในท่ามกลางสังคมของผู้ไม่เชื่อพระเจ้า บางครั้งเราอาจต้องสูญเสียการยอมรับ สูญเสียโอกาสที่จะได้งานดีๆ สูญเสียเพื่อนฝูงที่จะค่อยๆปลีกตัวห่างจากไปหรือแม้แต่สูญเสียคนรักไป พี่น้องที่เคยรักใคร่สนิทสนมก็ไม่เหมือนเดิม เพราะการยืนหยัดอยู่ฝ่ายพระเจ้า แต่สิ่งที่พระเจ้าจะทดแทนให้เรานั้นมากมายกว่าสิ่งเหล่านี้มากนัก 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ที่จริงข้าพเจ้าถือว่าสิ่งสารพัดไร้ประโยชน์ เพราะเห็นแก่ความประเสริฐแห่งความรู้ถึงพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้า เพราะเหตุพระองค์ ข้าพเจ้าจึงได้ยอมสละสิ่งสารพัด และถือว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นเหมือนหยากเยื่อเพื่อข้าพเจ้าจะได้พระคริสต์  (ฟิลิปปี 3:8)
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
และในทางตรงข้ามก็อย่าให้ชีวิตของเรานั้นเป็นเหมือนผู้นำศาสนาเหล่านี้ที่ขัดขวางความตั้งใจดีในการรับใช้พระเจ้าของผู้อื่น เพียงเพราะวิธีการที่เขาทำไม่ถูกใจหรือไม่เป็นไปตามความคิดของเรา


No comments:

Post a Comment