Wednesday, December 21, 2011

กล้าหาญโดยความเชื่อ

โยชูวา 2:1-24

เมื่อเราต้องการความช่วยเหลือ เรามักจะคิดถึงคนรวย คนมีความสามารถ คนมีชื่อเสียงดี คงไม่ค่อยมีใครคิดถึง คนขอทาน คนตาบอด คนยากจน โสเภณี ไม่มีใครรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น บางครั้งบุคคลที่เราคิดว่าจะช่วยเหลือเราได้ก็ใช่ว่าจะช่วยเราได้ทุกครั้ง แต่บางทีพระเจ้าอาจเปิดทางแห่งความช่วยเหลือผ่านบุคคลที่เราไม่คาดฝันก็ได้ เพราะพระเจ้าไม่ได้มองเหมือนกับเรา  ดังนั้นเราจึงไม่ควรมองข้ามหรือดูถูกใคร เพราะแท้ที่จริงทุกคนก็คือฝีพระหัตถ์ของพระเจ้า ใน มัทธิวบทที่ 1 เราพบว่ามีหญิงคนหนึ่งได้รับเกียรติด้วยชื่อของนางถูกบันทึกไว้ในลำดับพงศ์ของพระเยซูคริสต์ เป็นย่าทวดของกษัตริย์ดาวิด ซึ่งก่อนหน้านั้นเธอมีอาชีพเป็นที่น่ารังเกียรติของสังคม แต่ด้วยความศรัทธาและยำเกรงในพระเจ้าของอิสราเอล พระเจ้าได้ให้เกียรติเธอตามที่เธอได้ให้เกียรติ เชื่อและศรัทธาในพระองค์ หญิงผู้นี้คือนางราหับ หญิงที่เคยเป็นหญิงโสเภณีในเมืองเยรีโค

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฝ่ายกษัตริย์เมืองเยรีโคจึงใช้คนไปสั่งราหับว่า "จงส่งคนเหล่านั้นซึ่งมาหาเจ้าในบ้านของเจ้าออกมาให้เรา เพราะเขามาเพื่อจะสอดแนมดูทั่วแผ่นดินของเรา"
แต่หญิงนั้นได้ซ่อนชายทั้งสองเสียแล้วจึงกล่าวว่า "มีผู้ชายมาหาข้าพเจ้าจริง แต่เขามาจากไหนข้าพเจ้าไม่ทราบ
เมื่อจะปิดประตูเมืองในเวลาพลบค่ำ คนเหล่านั้นก็ออกไปแล้ว เขาไปทางไหนข้าพเจ้าไม่ทราบ จงรีบตามเขาไปเถิด คงทันเขา"
แต่หญิงนั้นได้พาคนทั้งสองขึ้นบนหลังคา แล้วซ่อนตัวเขาไว้ใต้ต้นป่านซึ่งวางลำดับตากไว้ที่ดาดฟ้าบนหลังคานั้น
เขาทั้งหลายก็ไล่ตามคนทั้งสองไปทางแม่น้ำจอร์แดนจนถึงท่าข้าม พอคนที่ไล่ตามนั้นออกไปแล้วเขาก็ปิดประตูเมือง
เมื่อชายทั้งสองคนยังไม่นอนหญิงนั้นก็ขึ้นไปหาเขาบนหลังคา
กล่าวแก่ชายนั้นว่า "ดิฉันทราบแล้วว่า พระเจ้าประทานแผ่นดินนี้แก่พวกท่าน ความคร้ามกลัวต่อท่านได้ตกอยู่บนเราทั้งหลาย และบรรดาชาวแผ่นดินก็ครั่นคร้ามต่อท่าน
เพราะเราทั้งหลาย ได้ยินเรื่องที่พระเจ้าทรงกระทำให้ทะเลแดงแห้งไปต่อหน้าท่านเมื่อท่านออกจากอียิปต์ และเรื่องการที่ท่านได้กระทำแก่กษัตริย์ทั้งสองของคนอาโมไรต์ ซึ่งอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน คือกษัตริย์สิโหนและโอก ผู้ซึ่งท่านทั้งหลายได้ทำลายเสียสิ้น
เพราะเรื่องท่านนี้แหละ พอเราได้ยินข่าวนี้ เราก็กลัวลานทีเดียว ไม่มีความกล้าหาญเหลืออยู่ในสักคนหนึ่งเลย เพราะพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าของสวรรค์เบื้องบนและโลกเบื้องล่าง
บัดนี้ขอท่านสาบานให้ดิฉันในพระนามพระเจ้าว่า เมื่อดิฉันได้สำแดงความเมตตาต่อท่านแล้ว ท่านจะแสดงความเมตตาต่อครอบครัวของดิฉัน และให้มีหมายสำคัญอันแน่นอนต่อกัน
และขอไว้ชีวิตบิดามารดา พี่น้องชายหญิง และทุกคนที่เป็นของวงศ์ญาตินี้"  (โยชูวา 2:3-13)

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นางราหับหญิงโสเภณีที่ไม่มีค่าและไม่มีความสำคัญอะไรเลย ก็กลับกลายเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ได้ ทั้งนี้เพราะเธอเชื่อและศรัทธาในพระเจ้าองค์เที่ยงแท้  และยอมมอบตนเองเป็นอุปกรณ์ในการทำให้น้ำพระทัยของพระเจ้าสำเร็จ
  
นางราหับได้ยินถึงพระราชกิจและการอัศจรรย์ของพระเจ้าที่ได้ทรงนำชนชาติอิสราเอลออกจากอียิปต์ นางคงได้ยินที่พระเจ้าทรงแหวกทะเลแดงให้ชนอิสราเอลข้ามไปบนดินแห้ง สิ่งเหล่านี้ทำให้นางยำเกรงพระเจ้า และนางได้พูดเป็นพยานถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า นางประกาศว่าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของสวรรค์เบื้องบนและของโลกด้วย และบอกว่านางทราบว่าพระเจ้าจะประทานดินแดนนี้ให้แก่อิสราเอล และนางก็เชื่อเช่นนั้น

นางต้องเดิมพันด้วยชีวิต หากกษัตริย์รู้ว่านางซ่อนตัวผู้สอดแนมไว้ นางต้องถูกลงโทษอย่างแน่นอน ความเชื่อที่นางมีต่อพระเจ้าซึ่งเกิดจากการได้ยิน นางมีความมั่นใจว่าอิสราเอลจะเป็นฝ่ายชนะและยึดครองดินแดนได้แน่นอน สิ่งที่นางพูดกับผู้สอดแนมนั้นแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจ ดิฉันทราบแล้วว่า พระเจ้าประทานแผ่นดินนี้ให้แก่พวกท่าน และนางก็ได้รับตอบแทนด้วยชีวิตของนางรวมทั้งครอบครัวของนางด้วยที่จะไม่ถูกทำลายเมื่ออิสราเอลเข้ายึดเมืองเยรีโค

การกระทำของนางราหับเป็นการแสดงออกถึงความเชื่อในพระเจ้าอย่างแท้จริงและเป็นความเชื่อที่เห็นได้อย่างเด่นชัด เราคงเคยผ่านสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจเลือกทำได้เพียงอย่างเดียว เราต้องประเมินว่าทางเลือกใดเป็นความดีสูงสุดในบรรดาทางเลือกที่มีทั้งหมด (บางครั้งอาจจะต้องเลือกทำสิ่งที่ผิดบาปน้อยที่สุด)  ในกรณีนี้ การโกหกของนางราหับเป็นการรักษาชีวิตผู้สอดแนมซึ่งเป็นคนของพระเจ้า และการกระทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

อย่างไรก็ตาม พระคัมภีร์มิได้ยกย่องนางราหับในเรื่องการโกหกเพื่อช่วยชีวิตคนของพระเจ้า แต่ยกย่องเพราะนางมีความเชื่อ นางรับด้วยปากว่าเชื่อในพระเจ้าของอิสราเอล (ยชว 2:10-13) และนางก็รอดเพราะความเชื่อ (ฮีบรู 11:31) และความเชื่อของนางได้สำแดงออกมาเป็นการกระทำ โดยซ่อนตัวพวกเขาไว้ รับรองพวกเขาและส่งพวกเขากลับ (ยากอบ 2:25)

นางราหับเป็นตัวอย่างของคนหนึ่งที่ชี้ให้เราเห็นว่า พระเจ้าทรงสามารถใช้คนทุกคนเพื่อให้พระประสงค์ของพระองค์นั้นสำเร็จโดยไม่เลือก อาชีพ เพศ อายุ ความสามารถหรือฐานะ แต่พระองค์ทรงดูที่ความเชื่อของผู้นั้น ความเชื่อของคริสเตียนไม่ใช่ความเชื่อที่ไม่คำนึงถึงเหตุผล แต่เป็นความเชื่อที่ยืนหยัดทำสิ่งที่ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร แม้ต้องเสี่ยงด้วยชีวิต

----------------------------------------------------------------------------------------------------
เมื่อเราได้ทราบน้ำพระทัยของพระเจ้าในการทรงสร้างเราแล้ว เรามีความตั้งใจอย่างไรในการดำเนินชีวิตในโลกนี้ เพื่อแสดงการขอบพระคุณพระเจ้า ชื่นชมยินดีในสิ่งที่พระองค์ทรงประทาน และให้ชีวิตของเราเป็นชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระองค์ อย่ามัวน้อยใจในสถานะของตัวเอง พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ที่ดีในชีวิตของเรา และพระเจ้าสามารถใช้เราได้ในสภาพที่เราเป็นอยู่อย่างแน่นอน
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

No comments:

Post a Comment