สัปดาห์ที่ 10
หมายสำคัญ (1) ชั้น พระธรรมวิวรณ์
คริสตจักรพลับพลา
ก่อนที่จะเข้าสู่การพิพากษาลำดับสุดท้าย
คือ ขันทั้งเจ็ดใบ ยอห์นได้เปลี่ยนฉากมาแนะนำตัวบุคคลสำคัญ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับช่วงเวลาสามปีครึ่งช่วงที่สอง
สงครามระหว่างพระเจ้ากับซาตานจะยังไม่สิ้นสุดจนกว่าพระเยซูคริสต์จะเสด็จมาครั้งที่สอง
มารก็จะตามหาคนที่อยู่ฝ่ายพระเจ้าด้วยความโกรธยิ่งนัก
เพราะว่ามันรู้ว่าเวลาของมันมีน้อย
1. หญิงที่มีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์
เธอถูกเรียกว่าเป็นหมายสำคัญที่ใหญ่ยิ่ง (12.1-2)
(คำว่าหมายสำคัญ
แสดงว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของบางสิ่งที่พระเจ้าจะทรงเปิดเผย)
หญิงคนนี้ป็นสัญลักษณ์เล็งถึงอิสราเอล
(ปฐก 37.9-11)
เมื่อเปรียบเทียบหมายสำคัญนี้กับความฝันของโยเซฟ (ปฐก 37.5-11) ดวงอาทิตย์เปรียบเหมือนยาโคบผู้มีอีกชื่อหนึ่งว่าอิสราเอล
ดวงจันทร์เปรียบเหมือนราเชล และดวงดาวทั้งสิบสองเปรียบเหมือนลูกสิบสองคนของยาโคบ
หญิงนี้มีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์และมีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า บนศีรษะมีดาวสิบสองดวงเป็นมงกุฎ ซึ่งเป็นภาพรวมหมายถึงชนชาติอิสราเอล
และพระเยซูคริสต์ก็บังเกิดจากชนชาติอิสราเอลด้วย การที่หญิงคนนี้กำลังมีครรภ์ใกล้จะคลอด
เล็งถึงพระเมสสิยาห์จะประสูติมาจากชนชาติอิสราเอล (บางทรรศนะเชื่อว่า
หญิงคนนี้น่าจะหมายถึงนางมารีย์มารดาของพระเยซู และบางทรรศนะเชื่อว่า
หญิงคนนี้เล็งถึงคริสตจักรที่เป็นชุมชนของพระเมสสิยาห์หรืออิสราเอลฝ่ายวิญญาณ)
อย่างไรก็ตาม
การตีความหมายว่าหญิงที่มีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ หมายถึงชนชาติอิสราเอลนั้น
ค่อนข้างน่าเป็นไปได้มากกว่าที่จะตีความว่าหมายถึงมารีย์ เพราะในข้อ 12.17
พญานาคโกรธแค้นหญิงนั้น มันจึงออกไปทำสงครามกับพงศ์พันธ์ของนาง...
พระคัมภีร์ไม่เคยกล่าวว่านางมารีย์เป็นมารดาแห่งพงศ์พันธ์อิสราเอลหรือผู้ที่เชื่อในพระคริสต์
หรือถ้าตีความว่าหญิงนั้นหมายถึงคริสตจักร เราก็จะได้ความหมายว่าพระเยซูทรงบังเกิดจากคริสตจักรซึ่งไม่ถูกต้อง
2.
พญานาคใหญ่สีแดง มีเจ็ดหัวสิบเขาและมีมงกุฎเจ็ดอัน (12.3-4)
ในวิวรณ์ 12.9
กล่าวว่า พญานาคใหญ่ซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์ ที่เขาเรียกกันว่า มารและซาตาน
สีแดง à
อาจเล็งถึงการนองเลือดที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงนี้
เพราะมันเป็นผู้ฆ่าคนตั้งแต่ปฐมกาล (ยน 8.44)
เจ็ดหัว à สติปัญญามาก อำนาจอันล้นเหลือที่จะแผ่ขยายไปทั่วโลก
สิบเขา à พละกำลังอันน่ากลัว
มงกุฎเจ็ดอัน à
มีไว้เพื่อมันจะแอบอ้างสิทธิอำนาจซึ่งเป็นของพระเยซูคริสต์
(เจ็ดหัว
สิบเขาและมงกุฎเจ็ดอัน
อาจจะหมายถึงผู้นำประเทศที่ครองอำนาจในช่วงเวลาเดียวกับปฏิปักษ์ของพระคริสต์)
ในวิวรณ์ได้กล่าวถึงสัตว์ที่มีเจ็ดหัว
สิบเขา ไว้ 3 แห่งด้วยกัน คือ
1. พญานาคใหญ่สีแดงตัวหนึ่งมี
เจ็ดหัว สิบเขา (12.3)
2. สัตว์ร้ายตัวหนึ่งมันขึ้นมาจากทะเล
มีเจ็ดหัว สิบเขา (13.1)
3. สัตว์ร้ายสีแดงตัวหนึ่ง
ซึ่งมีชื่อหลายชื่อเป็นคำหมิ่นประมาทเต็มไปทั้งตัว มันมีเจ็ดหัว สิบเขา (17.3)
(เราจะศึกษาเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งใน
บทที่ 17)
- หางพญานาคตวัดดวงดาวในท้องฟ้าทิ้งลงมาที่แผ่นดินโลก
ดวงดาวที่ถูกตวัดลงมาหมายถึงทูตสวรรค์ที่หลงตามซาตาน
ประมาณหนึ่งในสามส่วนของทูตสวรรค์ทั้งหมด (ดู อิสยาห์ บทที่ 14)
- ยืนอยู่เบื้องหน้าผู้หญิงที่กำลังจะคลอด
ตั้งแต่ในอดีต
พญานาคหรือซาตานได้พยายามทำลายชนชาติอิสราเอล เพื่อป้องกันการมาบังเกิดของพระคริสต์
- อพยพ 1.10 à ใช้ฟาโรห์ทำลายชนชาติอิสราเอล
- เยเรมีย์ 51.34 à
ใช้เนบูคัดเนสซาร์กวาดล้างชนชาติอิสราเอล
- มัทธิว 2.16 à
ใช้เฮโรดฆ่าเด็กชายที่ต่ำกว่า 2 ขวบที่หมู่บ้านเบ็ธเลเฮม
และที่กางเขนนั่นเองที่ซาตานคิดว่ามันชนะแล้ว
แต่กลับตาลปัตร ชัยชนะเป็นของพระคริสต์
เพราะโลหิตของพระเมษโปดกได้ไถ่มวลชนให้พ้นจากอำนาจของมัน
และผู้เชื่อทุกคนก็ชนะซาตานโดยพระโลหิตนั้น
3.
บุตรชาย (12.5-6)
บุตรชายของหญิงนั้น
หมายถึง พระคริสต์ผู้ที่จะทรงครอบครองประชาชาติทั้งปวงด้วยคทาเหล็ก (ดู อสย 9.6)
คำว่า ครอบครอง à หมายถึง
การที่ผู้เลี้ยงแกะดูแลแกะของตน เพราะต้องมีความรับผิดชอบ
ต่อสู้กับศัตรูที่จะมาทำร้ายแกะ เมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา พระองค์จะทรงต่อสู้กับผู้ที่ข่มเหงคริสตจักรของพระองค์
คริสเตียนที่มีชัยชนะในโลกนี้ จะได้มีส่วนในการครอบครองกับพระองค์ (2.26-27)
แต่เขานำบุตรนั้นขึ้นไปเฝ้าพระเจ้า
à เมื่อพระเยซูทรงเป็นขึ้นจากความตายและเสด็จขึ้นสู่สวรรค์
และพระเจ้าจึงทรงยกพระองค์ขึ้นอย่างสูง
4.
สงครามในสวรรค์ระหว่างทูตสวรรค์กับพญานาค (12.7-12)
ฉากการต่อสู้ที่ดุเดือดได้เปลี่ยนฉากจากแผ่นดินโลกไปที่บนสวรรค์
ความไม่สำเร็จในความพยายามของพญานาคที่จะทำลายพระคริสต์บนโลก
มันพยายามแม้กระทั่งตะกายตามขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อจะทำลายบุตรนั้น
ในตอนนี้เป็นสงครามในสวรรค์
เมื่อพญานาคกับบริวารพยายามจะบุกรุกเข้าไปในสวรรค์เพื่อจะทำลายพระคริสต์
มันต้องพบกับมีคาเอลกับเทพบริวารของท่าน มีคาเอลเป็นทูตสวรรค์นักรบ
เป็นการป้องกันที่ดุเดือดจนมารและพวกของมันแพ้และไม่มีที่อยู่ในสวรรค์อีกเลย
พวกมันทั้งหมดถูกผลักลงมายังแผ่นดินโลก
และเสียงสวรรค์ร้องป่าวประกาศชัยชนะของพระเจ้าและประชากรของพระองค์
ผู้ที่อยู่ในสวรรค์ถูกเรียกให้เข้ามาชื่นชมยินดีเพราะซาตานพ่ายแพ้แล้ว
แต่โลกถูกเตือนว่ามารมีความโกรธยิ่งนัก เพราะมันรู้ว่าเวลามันมีน้อย แค่ 1260 วัน
จากข้อ
12.10 เราจะเห็นว่า มารเป็นผู้กล่าวโทษผู้เชื่อทั้งกลางวันและกลางคืน ซึ่งตรงกับ
โยบ บทที่ 1 และ 2 และในเศคาริยาห์ 3.2
5.
สงครามระหว่างพงศ์พันธ์ของหญิงกับพญานาค (12.13-17)
เมื่อมารไม่สำเร็จในการบุกรุกสวรรค์และถูผลักลงมาที่แผ่นดินโลก
มันหันมาโจมตีหญิงนั้นด้วยความโกรธแค้น
แต่พระเจ้าก็ทรงคุ้มครองรักษาหญิงนั้นซึ่งหมายถึงอิสราเอลไว้ตลอดช่วงเวลาสามปีครึ่ง
(วาระหนึ่ง สองวาระและครึ่งวาระ = สามวาระครึ่ง หรือ สามปีครึ่ง
การอ้างอิงถึงเวลาเฉพาะเจาะจงนี้ แสดงว่าความทุกขเวทนาครั้งใหญ่ไม่ได้เกิดขึ้นตลอด
แต่เกิดขึ้นในช่วงสามปีครึ่งก่อนการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์) เธอได้รับการช่วยเหลือที่เหนือธรรมชาติซึ่งแสดงเป็นสัญลักษณ์ด้วยปีกนกอินทรีใหญ่สองปีก
ซึ่งทำให้หญิงนั้นสามารถบินหนีพญานาคเข้าไปในถิ่นทุรกันดารจนถึงที่ซึ่งนางได้รับการเลี้ยงดู
ปีกสองปีกคงไม่ได้หมายถึงเครื่องบินยุคใหม่
แต่น่าจะหมายถึงฤทธิ์อำนาจในการปลดปล่อยของพระเจ้า
และเป็นภาษาภาพที่นำมาจากพันธสัญญาเดิม อพยพ 19.4, ฉธบ 32.11-12
และการหนีของชาวอสราเอลไปยังที่ซ่อนปลอดภัยก็ถูกกล่าวถึงใน มัทธิว 24.16, มาระโก
13.14 และ ลูกา 21.21
12.15-17
งูได้ไล่ตามหญิงนั้นและทำให้เกิดน้ำท่วมเพื่อพัดหญิงนั้นไป
ตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ของแผ่นดินพันธสัญญาไม่เอื้ออำนวยให้เกิดน้ำท่วม
ดังนั้นน้ำที่เอ่อท่วมนี้น่าจะหมายถึงความพยายามของซาตานที่จะทำลายอิสราเอล
พระเจ้าทรงช่วยเหลืออิสราเอลไว้เพื่อพวกเขาจะไม่ถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
ซึ่งก็เป็นไปตามประวัติศาสตร์ที่อิสราเอลกระจัดกระจายไปทั่วโลก
แต่เขาก็ยังสามารถดำรงเชื้อชาติอยู่ได้
ความพยายามทั้งสิ้นที่จะทำลายอิสราเอลให้สิ้นชาติก็กระทำไม่สำเร็จ
No comments:
Post a Comment