Monday, December 14, 2015

เปรียบเทียบภัยพิบัติ ตรา แตร ขัน

สัปดาห์ที่ 14     เปรียบเทียบภัยพิบัติตรา แตร ขัน                      ชั้น พระธรรมวิวรณ์ คริสตจักรพลับพลา
                นิมิตแห่งบุตรมนุษย์ใน        
                บทที่ 1 นำไปถึงข่าวสำหรับคริสตจักรทั้งเจ็ด
                บทที่ 2-3  พระเยซูคริสต์ทรงสถิตเหนือคริสตจักรและท่ามกลางคริสตจักร
                บทที่ 4-5 พระเยซูคริสต์และพระเจ้าประทับอยู่ในสวรรค์ นำไปถึงการคลี่หนังสือม้วนแห่งการพิพากษา
                บทที่ 6-16  มีนิมิตสามชุดที่แสดงให้เห็นว่าพระเจ้าจะต้องพิพากษาความบาปชั่วของมนุษย์ คือ ตรา แตร ขัน
แต่ความสำคัญของหนังสือวิวรณ์ไม่ได้อยู่ที่รายละเอียดของ ตรา 7 ดวง  แตร 7 คัน  ขัน 7 ใบ หรือทูตสวรรค์ 7 องค์ แต่ขึ้นกับว่าใครอยู่บนพระที่นั่ง ใครกำลังครอบครองท่ามกลางเหตุการณ์ปั่นป่วนของโลกนี้ และใครจะนำโลกนี้ไปสู่สันติภาพ  จุดศูนย์กลางของหนังสือเล่มนี้คือ พระเยซูคริสต์ (คำว่า พระเมษโปดก ปรากฏ 26 ครั้ง)
1. เปรียบเทียบเรื่องภัยพิบัติในช่วงตราทั้ง 7 แตรทั้ง 7 และขันทั้ง 7
            1. ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นทั้ง 3 ช่วงนี้ เกี่ยวข้องกันโดยตรง เพราะตราที่ 7 ประกอบด้วยแตรทั้ง 7 และแตรที่ 7 ประกอบด้วยขันทั้ง  7 ใบ
            2. ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นใหม่แต่ละช่วงนั้นจะเป็นลักษณะค่อยๆ เพิ่มความเข้มข้น
                ในการลงโทษจากตราที่ 1-6 นับว่าเป็นการลงโทษขั้นเริ่มต้นเพื่อให้มนุษย์ได้สำนึกความบาปผิดของตน มีผู้ที่เสียชีวิต หนึ่งในสี่ และธรรมชาติส่วนหนึ่งถูกทำลาย
                แต่มาถึงช่วงแตรที่ 1-6  การลงโทษทวีความรุนแรงมากขึ้น ทะเล ธารน้ำจืดและธรรมชาติ    รวมทั้งมนุษย์หนึ่งในสาม ถูกทำลายสิ้น
                และมาจนถึงขันที่ 1-7  การลงโทษทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น จนถึงที่สุด ทะเล ธารน้ำจืด สัตว์น้ำ ทั้งหมด ถูกทำลายสิ้น ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ สงครามอารมาเกดโดนได้ทำลายผู้ที่อยู่ฝ่ายของซาตานทั้งกษัตริย์ ทหาร ประชาชน ไม่ว่าไทหรือทาส ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือผู้น้อยที่อยู่ฝ่ายซาตาน (สังเกตได้จากคนเหล่านั้นสาปแช่งพระเจ้า) พร้อมทั้งลูกเห็บที่แต่ละก้อนหนักประมาณ 50 กิโลกรัม ตกลงมาจากฟ้าถูกคนทั้งปวง
            3. ตราที่ 4 มนุษย์ หนึ่งในสี่ ต้องเสียชีวิตลง ที่นี่ยังไม่ได้พูดถึงการประทับตราชนชาติ อิสราเอล (ประทับตราชนชาติอิสราเอล 144,000 คน ในบทที่ 7) ซึ่งดูเหมือนเป็นภาพรวมของประชากรของโลกนี้ทั้งหมด และอธิบายตามทัศนะของก่อนพันปี (Premillenial) เห็นว่าช่วงนี้ชนชาติอิสราเอลถูกหลอกให้ร่วมมือกับสัตว์ร้าย อิสราเอลได้รับความเห็นชอบให้สร้างพระวิหารขึ้นมาใหม่ ภาพที่เห็นคือสันติภาพที่เกิดขึ้นในตะวันออกกลาง แต่ 3 ปีครึ่งให้หลังความจริงจึงได้ปรากฏพระวิหารถูกดูหมิ่นเหยียบย่ำลงโดยสัตว์ร้าย อิสราเอลจึงได้ตระหนักข้อเท็จจริงไม่ยอมร่วมมือกับสัตว์ร้ายอีกต่อไปอย่างเด็ดขาด และกระจายไปยังที่ต่างๆ และเป็นพยานที่ดีของพระเจ้า
                ภาพของแตรที่ 5 ก็ดี หรือของขันที่ 1 ได้แยกผู้ที่มีตราประทับของพระเจ้ากับผู้ที่มีตราของสัตว์ร้าย 666 ออกจากกัน ผู้ที่ไม่มีตราประทับของพระเจ้า (แตรที่ 5: วิวรณ์ 9:4) หรือผู้ที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย (ขันที่ 1 วิวรณ์ 16:2) ต้องรับการลงโทษให้ทุกข์ทรมานจากพิษแมลงป่อง และจากแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว
            4. วิญญาณใต้แท่นบูชาตามที่ได้บันทึกไว้ว่าในช่วงตราที่ 5 และช่วงขันที่ 3 ช่วงแรกเรียกร้องให้รีบทรงพิพากษาและตอบสนองต่อผู้ที่สมควรได้รับการลงโทษ ช่วงหลังเป็นการสะท้อนเสียงสนับสนุนการทรงลงโทษของพระเจ้าต่อผู้ที่สมควรได้รับการลงโทษ
            5. ดวงอาทิตย์ได้ถูกกล่าวถึงช่วงที่แกะตราที่ 6 เป่าแตรที่ 4 และเทขันที่ 4 สิ่งที่แตกต่างคือในช่วงตราและแตร ดวงอาทิตย์จะมืดลง แต่มาถึงขันดวงอาทิตย์กลับร้อนแรง และคลอกเผามนุษย์จนตาย
            6. ผลของการลงโทษไม่ว่าจากตรา แตร และขัน หรือจากเบาไปสู่หนัก การตอบสนองของผู้ที่ได้รับการลงโทษยังคงออกมาในทางลบ พวกเขาไม่ได้สำนึกผิด
            หลังจากตราที่ 6 พวกเขาร้องกับภูเขาและโขดหินว่า จงล้มทับเราเถิด จงซ่อนเราไว้ให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ผู้ประทับอยู่บนที่นั่ง และให้พ้นจากพระพิโรธของพระเมษปโดกนั้น (6:16)
                หลังจากแตรที่ 6 พระคัมภีร์บันทึกว่า มนุษย์ทั้งหลายที่เหลืออยู่ ที่มิได้ถูกฆ่าด้วยภัยพิบัติเหล่านี้ยังไม่ได้กลับใจใหม่จากงานที่มือเขาได้กระทำ ไม่ได้เลิกบูชาผี บูชารูปเคารพที่ทำด้วยทองคำ เงินทองสัมฤทธิ์ หินและไม้ รูปเคารพเหล่านั้นจะดูหรือฟังหรือเดินก็ไม่ได้  และเขาก็มิได้สำนึกในการฆ่าฟันกัน การเชื่อเวทมนต์  การล่วงประเวณีและการลักขโมย (9:20-21)
                หลังจากขันที่ 5  พระคัมภีร์บันทึกว่า คนเหล่านั้นได้กัดลิ้นของตนด้วยความระทมและสาปแช่งระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ เพราะความเจ็บปวดและเพราะแผลตามตัวของเขาเอง แต่เขาไม่ได้สำนึกในการประพฤติผิดของตน (16:10-11)
            7. ที่น่าสังเกตมากจากการเปรียบเทียบเหตุการณ์ในช่วง ตรา  แตร และขันทั้ง 7 นั้นเมื่อมาถึงที่สุดของแต่ละช่วง (ตราที่ 7 แตรที่ 7 และขันที่ 7) นิมิตที่ยอห์นเห็นนอกจากการลงโทษบนโลกแล้วคือ การสำแดงเหตุการณ์ในสวรรค์            
                เมื่อถึงตราที่ 7 สวรรค์เงียบไปครึ่งชั่วโมง ทูตสวรรค์รับพระราชทานแตร มีการถวายเครื่องหอมสู่เบื้องพระพักตร์พระเจ้า และโยนกระถางสู่พื้นโลก  
                เมื่อถึงแตรที่ 7   มีการกล่าวสรรเสริญพระเจ้าในสวรรค์ การนมัสการพระเจ้าของผู้อาวุโสยี่สิบสี่คน พระวิหารในสวรรค์เปิดออก ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง แผ่นดินไหว และลูกเห็บตกบนโลกอย่างรุนแรง
                เมื่อถึงขันที่ 7  มีพระสุรเสียงดังจากพระที่นั่งในพระวิหาร (อยู่บนสรรค์) ว่าสำเร็จแล้วเช่นเดียวกับช่วงแตรที่ 7 มีเสียงฟ้าแลบ ฟ้าร้อง แผ่นดินไหวรุนแรงที่สุดในโลกและลูกเห็บที่หนักถึง 50 กิโลกรัมตกจากฟ้าถูกคนทั้งปวงในโลก



ตาราง เปรียบเทียบภัยพิบัติในช่วงตราทั้ง 7 แตรทั้ง 7 และขันทั้ง 7


ลำดับ
ตรา
แตร
ขัน (หรือชาม)
1
ม้าขาว ผู้ขี่ม้าถือธนู บัตรพระราชทานมงกุฎ อย่างผู้ที่มีชัยชนะ (6:1-2)
ลูกเห็บไฟบนเลือดตกสู่แผ่นดิน หนึ่งในสามของต้นไม้ หญ้าเขียวถูกทำลาย (8:6-7)
ผู้ที่มีเครื่องหมายของสัตว์ร้าย และบูชารูปของสัตว์ร้าย เกิดเป็นแผลร้ายที่เป็นหนองทั่วตัว (16:1-2)
2
ม้าสีแดงสด ผู้ขี่ม้านำสันติสุขไปจากดินแดนโลก รับพระราชทานดาบใหญ่ คนทั้งปวงรบราฆ่าฟันกัน
(6:3-4)
สิ่งหนึ่งเหมือนภูเขาใหญ่ ลุกเป็นไฟถูกทิ้งลงไปในทะเล หนึ่งในสามของทะเลกลายเป็นเลือด หนึ่งในสามของสัตว์ทะเลและเรือ ถูกทำลาย (8:8-9)
ทะเลกลายเป็นเหมือนเลือดคนตาย บรรดาสิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมดสิ้น (16:3)
3
ม้าดำ ผู้ขี่ม้าถือตราชู ข้าวสาลีราคาทะนานละหนึ่งเดรานิอัน ไม่ทำอันตรายแก่น้ำมันและน้ำองุ่น (6:7-8)
ดาวใหญ่ ชื่อบรเพ็ดลุกเป็นไฟ ตกจากท้องฟ้าสู่ธารน้ำ ทำให้แม่น้ำมีรสขมหนึ่งในสามส่วน มีคนจำนวนมากตาย เพราะน้ำมีรสขม (8:10-11)
แม่น้ำและบ่อน้ำพุทั้งหลายกลายเป็นเลือด เสียงจากแท่นบูชาร้องว่า การพิพากษาของพระเจ้า เที่ยงตรงและยุติธรรมแล้ว (16:4-7)
4
ม้าสีกะเลียว ผู้ขี่ม้าชื่อมัจจุราช ตามด้วยแดนคนตายล้างผลาญแผ่นดินโลก หนึ่งในสี่ ด้วยคมดาบ ความอดอยาก โรคระบาด และด้วยสัตว์ร้าย (6:7-8)
ดวงอาทิตย์ถูกทำลายหนึ่งในสามส่วน ดวงจันทร์และดวงดาวก็เช่นเดียวกัน มืดไปหนึ่งในสาม กลางคืนก็เช่นเดียวกับกลางวัน (8:12-13)
ดวงอาทิตย์คลอกมนุษย์ด้วยไฟ (16:8-9)
5
วิญญาณใต้แท่นบูชา ร้องว่าอีกนานเท่าใดจึงจะทรงพิพากษา และตอบสนองต่อคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก
คำตอบ : ประทานเสื้อขาวและให้คอยจนครบจำนวน (6:9-11)
ดาวดวงหนึ่งตกจากฟ้าพร้อมกุญแจ สำหรับช่องบาดาลมีฝูงตั๊กแตนจากช่องบาดาล ซึ่งมีอำนาจของแมลงป่องแห่งแผ่นดินโลก ทำร้ายผู้ที่ไม่มีตราของพระเจ้าบนหน้าผาก (9:1-12)
อาณาจักรของสัตว์ร้าย มืดไป ประชาชนกัดลิ้นของตนด้วยความระทมทุกข์ เพราะแผลตามตัวของเขา (16:10-11)
6
แผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์มืดลงดวงจันทร์เป็นสีเลือด ดวงดาวตกจากฟากฟ้า ท้องฟ้าหายไปภูเขา และเกาะเคลื่อนย้าย มนุษย์รู้ว่าเป็นพระพิโรธของพระเจ้า (6:12-17)
ทูตสวรรค์ที่ถูกมัด ได้รับการปลดปล่อยให้ทำลายมนุษย์เสียหนึ่งในสามด้วย ไฟควัน และกำมะถันที่พลุ่งออกจากปากม้า (9:13-21)
แม่น้ำยูเฟรติสแห่งผีโสโครกสามตน จากปากของพญานาคสัตว์ร้าย และผู้เผยพระวจนะเท็จออกไปล่อลวงคน
7
ความเงียบครอบคลุมสวรรค์ ประมาณครึ่งชั่วโมง ทูตสวรรค์เจ็ดองค์ รับพระราชทานแตรทั้งเจ็ดคัน ถวายเครื่องหอม พร้อมคำอธิษฐานของธรรมิกชน สู่เบื้องพระพักตร์ของพระเจ้า ทูตสวรรค์ยื่นกระถางไฟสู่แผ่นดินโลก เกิดเสียงฟ้าร้อง ฟ้าแลบ แผ่นดินไหว (8:1-5)
ในสวรรค์มีการกล่าวสรรเสริญพระเจ้า ผู้อาวุโส 24 คน กราบนมัสการ พระวิหารในสวรรค์เปิดออก มีหีบพระสัญญาสายฟ้าแลบ ฟ้าร้องแผ่นดินไหว และลูกเห็บตกอย่างหนัก (11:15-19)
พระสุรเสียงว่า "สำเร็จ" แล้ว มีเสียงฟ้าร้องต่างๆ เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุด นครถูกแยกเป็นสามส่วน เกาะและภูเขาเลื่อนหายไป ลูกเห็บก้อนละ 50 ก.ก. ตกจากฟ้าถูกคนทั้งปวง (16:17-21)




No comments:

Post a Comment