สัปดาห์ที่ 8
แตรทั้งเจ็ด ชั้น พระธรรมวิวรณ์
คริสตจักรพลับพลา
ภัยพิบัติที่ผ่านมาในบทที่ 6-7
ที่เกิดจากการแกะตราทั้งเจ็ดล้วนแต่เป็นผลแห่งความบาปของมนุษย์
แต่ภัยพิบัติจากแตรเป็นสิ่งที่มาจาพระเจ้าโดยตรง เราจะเห็นว่าเหตุการณ์เหล่านี้ล้วนแต่พระเจ้าทรงใช้ลงโทษมาก่อนในยุคแรก
เช่น ภัยพิบัติที่เกิดแก่อียิปต์ คือ ลูกเห็บ ตั๊กแตน ในสมัยของอาโมส
พระเจ้าก็ได้ใช้ภัยธรรมชาติเพื่อกระตุ้นเตือนคนอิสราเอลให้หันกลับมาหาพระเจ้า เช่น
การกันดารอาหาร รา ตั๊กแตน ความแห้งแล้ง โรคระบาด
แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้หันจากความบาป
ซึ่งภัยธรรมชาติก็เป็นเหมือนพระสุรเสียงที่เตือนให้มนุษย์กลับใจก่อนการพิพากษาใหญ่จะมาถึง
แตรทั้งเจ็ด (8.6-10.11)
เหตุการณ์ในแตรคันที่หนึ่งถึงสี่นั้น
เป็นภัยธรรมชาติที่มาถึงแผ่นดิน ทะเล แม่น้ำ ลาธารและแหล่งน้ำต่างๆ รวมทั้งดวงอาทิตย์
ดวงจันทร์ ดวงดาว โดยพระเจ้าทรงอนุญาตให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น
เราจะเห็นถึงการทรงครอบครองเหนือสิ่งสารพัดและเหตุการณ์ทั้งปวงของพระเจ้า
แตรคันที่หนึ่ง
(8.6-7) ลูกเห็บและไฟปนเลือด
เมื่อทูตสวรรค์เป่าแตร
ลูเห็บและไฟปนเลือดตกลงมาบนแผ่นดิน เป็นผลให้แผ่นดินโลกไหม้ไปหนึ่งในสามส่วน
ทั้งต้นไม้และหญ้าเขียวสดด้วย (คำว่า หญ้าเขียวสดไหม้ไปหมดสิ้น
คงหมายถึงทั้งหมดของหนึ่งในสามส่วนนั้น เพราะเมื่อเป่าแตรคันที่ห้า
พระเจ้าทรงห้ามฝูงตั๊กแตนไม่ให้ทำร้ายหญ้าบนแผ่นดินโลก)
มนุษย์มักจะคิดว่าสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างได้
แต่จะเห็นจากภัยธรรมชาติว่าความสามารถของมนุษย์นั้นยังจำกัดอยู่
ตามคำพยากรณ์ของ โยเอล 2.30 ‘เราจะสำแดงลางอัศจรรย์
ในท้องฟ้าและบนดิน เป็นเลือดและไฟและลำควัน’ à เมื่อใกล้เวลาที่พระคริสต์จะเสด็จมาครั้งที่สอง
จะมีภัยธรรมชาติที่น่ากลัวเกิดขึ้นมากมาย
แตรคันที่สอง
(8.8-9) ภูเขาใหญ่ลุกไหม้ถูกทิ้งลงไปในทะเล
เมื่อทูตสวรรค์เป่าแตร
ยอห์นได้เห็นสิ่งหนึ่งเหมือนภูเขาใหญ่กำลังลุกไหม้และถูกทิ้งลงไปในทะเล à อาจจะเป็นลูกไฟที่ตกจากฟ้าลงสู่ทะเล
หรืออุกาบาตรที่กำลังลุกไหม้ตกลงมา หรือเป็นไปได้ที่อาจจะเป็นระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกยิงแล้วตกลงสู่ทะเล
จะเป็นสิ่งใดก็ตาม ก็มีผลทำให้หนึ่งในสามส่วนของทะเลกลายเป็นสีเลือด
หนึ่งในสามส่วนของสัตว์ทะเลตายลง และหนึ่งในสามส่วนของเรือกำปั่นแตกพินาศไป
ทำให้เกิดปัญหามากมายทั้ง อาหาร การขนส่ง มลภาวะและระบบเศรษฐกิจ
ถ้าเราอยู่ในเหตุการณ์นี้
จะทำอย่างไร ?? ........(สดุดี
46.1-2)
แตรคันที่สาม
(8.10-11) ดาวใหญ่และเปลวไฟลุกโพลงตกลงแม่น้ำ
เมื่อทูตสวรรค์เป่าแตร
ดาวใหญ่ดวงหนึ่งเป็นเปลวไฟลุกโพลงดุจใต้
สิ่งนี้ตกลงมาบนแม่น้ำหนึ่งในสามส่วนและบ่อน้ำพุทั้งหลาย
เป็นการทำลายห้วงน้ำอื่นๆที่ไม่ใช่ทะเล ดาวนั้นชื่อ บอระเพ็ด à เป็นพืชที่มีรสขม
เกิดในทะเลทราย เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความเศร้าสลดและขมขื่น (สภษ 5.4, ฉธบ 29.18)
เป็นการพิพากษาที่น่าสะพรึงกลัวอีกประการหนึ่ง ที่จบลงด้วยการสูญเสียทั้งผู้คน
สัตว์ละทรัพย์สินจำนวนมาก น้ำดื่มที่จำเป็นสำหรับมนุษย์และสัตว์กลับกลายเป็นพิษ
แตรคันที่สี่
(8.12) ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
ดวงดาวมืดไปหนึ่งในสามส่วน
เมื่อทูตสวรรค์เป่าแตร
ระบบสุริยะจักรวาลมีปัญหา ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว มืดไปหนึ่งในสามส่วน
ซึ่งต้องมีผลกระทบต่อแผ่นดินโลกแน่นอน เพราะการขาดพลังงานจากแสงอาทิตย์จะนำปัญหามากมายตามมาทันที
ไม่ว่าจะเป็น ความหนาวเย็น อากาศเป็นพิษ
อาโมสได้บรรยาย วันแห่งพระเจ้า
ว่า เป็นวันแห่งความมืด อาโมส 5.18
** วิวรณ์ 8.13 เป็นการประกาศถึงแตร 3
คันสุดท้าย มีคำเตือนว่า แตรอีก 3 คันจะตามมาด้วยเหตุการณ์ที่ร้ายแรงและน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าแตร
4 คันที่ผ่านมา ‘วิบัติ วิบัติ วิบัติ’ ที่นกอินทรีย์ร้อง
คือ วิบัติที่จะเกิดขึ้นจากแตรอีก 3 คัน น่าสังเกตว่า แตร 4 คันแรกนั้น
เป็นการทำลายสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆตัวมนุษย์ แต่แตรที่เหลืออีก 3
คันนั้นจะเป็นการทำลายมนุษย์ที่อยู่บนผ่นดินโลก ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิญญาณชั่วที่จะทำร้ายคนที่ไม่มีตราประทับของพระเจ้า
แตรคันที่ห้า
(9.1-12) ดาวดวงหนึ่งตกจากฟ้า
วิบัติอย่างที่หนึ่ง
เมื่อทูตสวรรค์เป่าแตร ยอห์นได้เห็นดาวดวงหนึ่งตกจากฟ้ามาที่แผ่นดินโลก
และพระเจ้าประทานกุญแจช่องบาดาลให้ดาวดวงนั้น ‘ดาว’
ในที่นี้เป็นบุคคล ไม่ใช่วัตถุ แม้ในสมัยปัจจุบันเราก็เรียกผู้ที่มีชื่อเสียง
นักกีฬา นักแสดงว่าเป็นดาว หรือ superstar ในลูกา 10.18
พระเยซูตรัสว่า เราได้เห็นซาตานตกจากฟ้าเหมือนฟ้าแลบ
ดวงที่กล่าวถึงจึงน่าจะหมายถึงซาตานที่ถูกทิ้งลงมาจากสวรรค์
มันได้รับกุญแจสำหรับช่องบาดาล ซึ่งเป็นที่อยู่ของพวกวิญญาณชั่ว
เมื่อเปิดช่องบาดาลนั้น วิญญาณชั่วถูกปล่อยออกไปเหมือนควันจากเตาใหญ่
ควันซึ่งทำให้ดวงอาทิตย์อละอากาศมืดไป à คงจะหมายถึงความมืดมัวแห่งการหลอกลวง
ความเชื่อผิด ความชั่ว สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อมนุษย์หันไปจากพระเจ้า
-
มีฝูงตั๊กแตนบินออกมาจากควันนั้น
และมันถูกห้ามไม่ให้ทำลายพืชผล มันได้รับอำนาจเหมือนแมลงป่อง
พระเจ้าทรงอนุญาตให้ฝูงตั๊กแตนทำร้ายคนที่ไม่มีตราประทับของพระเจ้า มันมีเหล็กใน
คนจะไม่ถูกฆ่าตายแต่จะทรมานตลอด 5 เดือน พวกเขาจะแสวงหาความตายแต่จะไม่พบ
ซึ่งเป็นการยืนยันคำตรัสของพระเยซู ใน มัทธิว 24.21 ความทุกข์ลำบากใหญ่ยิ่ง
อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มโลกมาจนถึงทุกวันนี้ และเบื้องหน้าจะไม่มีอีกต่อไป
-
ลักษณะของตั๊กแตน หน้าเหมือนมนุษย์
ผมผู้หญิง ฟันสิงห์ ทับทรวงเหล็ก
และเสียงปีกเหมือนเสียงรถม้าเป็นอันมาก ยอห์นกำลังอธิบายสิ่งที่เขาเห็น
แต่ไม่ได้ตีความหมายแต่ละสิ่ง
นี่เป็นภาพสะท้อนถึงอำนาจเหนือธรรมชาติที่น่ากลัวของซาตาน
-
พวกวิญญาณชั่วมีกษัตริย์ที่ปกครองมันชื่อ
อาบัดโดน ชื่อกรีกว่า อปอลลิโยน ซึ่งทั้ง 2 คำแปลว่า ผู้ทำลาย
แตรคันที่หก (9.12-21) แก้มัดทูตสวรรค์ทั้งสี่
วิบัติอย่างที่สอง ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับสงคราม
ยอห์นได้ยินเสียงออกมาจากเชิงงอนมุมทั้งสี่ของแท่นทองคำ
ทูตสวรรค์องค์ที่หกถูกสั่งให้แก้มัดทูตสวรรค์ทั้งสี่ที่ถูกมัดไว้ที่แม่น้ำยูเฟรติส
(ทูตสวรรค์ทั้งสี่คือวิญญาณชั่ว)
การปล่อยตัวในครั้งนี้เพื่อให้ฆ่ามนุษย์เสียหนึ่งในสามส่วนโดยพลม้าสองร้อยล้าน
-
ลักษณะของม้า ผู้ขี่สวมทับทรวงสีไฟ
สีน้ำเงินและสีกำมะถัน
-
หัวของม้าคล้ายหัวสิงห์ มีไฟ ควัน
กำมะถัน พลุ่งออกจากปาก
-
พิษสงของมันอยู่ที่ปากและหาง
ซึ่งหางของมันเหมือนงูและมีหัว
จากภาพที่ยอห์นเห็น
มันเป็นสิ่งที่ไม่ใช่ม้าธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นภาพของอะไรก็ตาม
แต่มันบ่งบอกถึงอำนาจแห่งการทำลายล้างที่รุนแรง
แม้ว่าจะเห็นความรุนแรงในการพิพากษาเพิ่มขึ้น
แต่ยอห์นก็ไม่เห็นว่ามนุษย์จะกลับใจใหม่ พวกเขายังคงบูชาผี รูปเคารพ ยังฆ่ากัน
ล่วงประเวณี เล่นเวทย์มนต์ โดยไม่มีท่าทีว่าจะสำนึกและกลับใจ
คนเหล่านี้มีใจแข็งกระด้างมากเสียจนแม้แต่วิบัติต่างๆที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถผลักดันให้เขาหันกลับมาหาพระเจ้าได้
ปกติคนเราจะไม่ลงไปจมปลักกับความผิดบาปและความชั่วโดยทันที
แต่จะค่อยๆถลำละพัฒนาไปทีละนิด จนในที่สุดก็ไม่สามารถถอนตัวได้
ใครก็ตามถ้าปล่อยให้บาปหยั่งรากลึกในชีวิตจะตกที่นั่งลำบาก
การเล่นกับการทดลองในวันนี้จะกลายเป็นบาปในวันรุ่งขึ้น
จากนั้นจะกลายเป็นนิสัยในวันถัดไป (ยก
1.15)
บทที่ 10 ทูตสวรรค์ที่มีฤทธิ์มากและหนังสือม้วนเล็ก
ภาพทูตสวรรค์องค์นี้ถูกวาดภาพไว้อย่างงดงาม
มีเมฆล้อมรอบตัวท่าน มีรุ้งเหนือศีรษะของท่าน ใบหน้าดุจดวงอาทิตย์ ขาเหมือนเสาไฟ
ถือหนังสือม้วนเล็กที่คลี่อยู่ในมือท่าน เท้าขวายืนอยู่บนทะเล เท้าซ้ายยืนอยู่บนบก
ทูตองค์นี้ร้องเสียงดังดุจสิงห์ เป็นภาพที่ก่อให้เกิดความน่าเกรงขาม
เมื่อทูตองค์นี้ร้องเสียงฟ้าร้องทั้งเจ็ดก็ดังขึ้น
ยอห์นถูกห้ามไม่ให้บันทึกเสียงฟ้าร้องนั้น
ในขณะที่หนังสือวิวรณ์มีจุดประสงค์ในการเปิดเผยพระประสงค์และเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แต่ก็มีบางอย่างที่ยังต้องถูกปิดซ่อนไว้ ทำไม ?? พระคัมภีร์ไม่มีคำตอบ
แต่เราสามารถเปรียบเทียบได้กับ ดาเนียล 12.9 พระเจ้าตรัสตอบดาเนียลว่า ถ้อยคำเหล่านั้นถูกปิดไว้แล้วและถูกประทับตราจนถึงวาระสุดท้าย
à แผนการของพระเจ้าเราไม่สามารถรู้ได้ทั้งหมด
เป็นสิทธิอำนาจของพระองค์ที่จะทรงสำแดงให้เรารู้ได้เท่าไร
เราก็จะเข้าใจได้เท่านั้น
พระเยซูตรัสกับสาวกเช่นเดียวกันว่า
เวลาสุดปลายนั้นไม่มีใครทราบ พระเจ้าผู้เดียวทรงทราบ (มก 13.32-33) พระเจ้าทรงเปิดเผยทุกอย่างที่เราจำเป็นต้องทราบ
เพื่อจะได้ใช้ชีวิตเพื่อพระองค์ในปัจจุบันนี้
ในขณะที่เราปรารถนาจะเตรียมพร้อมสำหรับวันสุดท้ายนั้น
เราต้องไม่ฝักใฝ่ที่จะคาดเดาเกี่ยวกับวาระสุดท้ายมากกว่าการที่จะดำเนินชีวิตที่สัตย์ซื่อในขณะที่เรารอคอยพระองค์
หนังสือม้วนเล็กเป็นคนละอันกับหนังสือม้วนที่ประทับตราทั้งเจ็ดซึ่งอยู่ที่พระเมษโปดก
หนังสือม้วนเล็กนี้บันทึกสิ่งที่ทูตสวรรค์ได้รับบันชาให้กระทำ และกำลังจะเกิดขึ้น
ทูตสวรรค์องค์นี้ประกาศว่าจะไม่มีการล่าช้าอีกต่อไป
จุดประสงค์ของทูตสวรรค์ทรงฤทธิ์นั้นชัดเจน คือ ประกาศถึงการพิพากษาโลกครั้งสุดท้าย
เท้าที่เหยียบบนทะเลและแผ่นดินบ่งบอกว่า
คำพูดของท่านนั้นเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เนรมิตสร้างทั้งหมด
ไม่ใช่ส่วนที่จำกัดเหมือนการพิพากษา ตราและแตร
แตรคันที่เจ็ดเป็นกำหนดเวลาที่ความล้ำลึกของพระเจ้าจะสำเร็จ
เพราะแตรคันที่เจ็ดจะนำการพิพากษาด้วยขันทั้งเจ็ดเข้ามา
ซึ่งจะนำโลกปัจจุบันไปถึงจุดสิ้นสุด
ยอห์นได้รับคำสั่งให้กินหนังสือม้วน
ท่านได้บรรยายว่า เมื่ออยู่ในปากนั้นมีรสหวานเหมือนน้ำผึ้ง แต่เมื่อกลืนลงไปกลับขม
แสดงถึงพระวจนะของพระเจ้ามีรสหวานสำหรับผู้ที่มีความเชื่อ
เพราะเป็นพระวจนะที่เปิดเผยให้เห็นถึงพระคุณของพระเจ้าและพระสัญญาอันล้ำค่าที่พระองค์ประทานให้แก่ผู้เชื่อ
(สดุดี 119.103)
แต่สำหรับผู้ที่ไม่ได้เชื่อ พระวจนะนั้นจะนำมาซึ่งการพิพากษาสู่พวกเขา
ทั้งเยเรมีย์และเอเสเคียลต่างก็มีประสบการณ์นี้ด้วย (ยรม 15.16, อสค 3.3)
ผู้รับใช้ ผู้ประกาศ นักเทศน์
อาจจะรู้สึกว่าพระวจนะนั้นมีรสขม
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ประกาศต่อผู้ที่ไม่เชื่อและอยู่ใต้พระพิโรธของพระเจ้า
ญาติพี่น้อง เพื่อน และคนมากมายที่กำลังอยู่ในความพินาศ
ซึ่งจะต้องพบกับการพิพากษาอันน่ากลัวของพระเจ้า
จึงอดไม่ได้ที่จะทุกข์ใจเพราะสงสารเขาเหล่านั้น (2 คร 12.15-16)
No comments:
Post a Comment