1. เบื้องหลังการเขียน
1.1 ผู้เขียน เปาโลเป็นผู้เขียน (1.1, 10.1) รูปแบบการเขียนที่ค่อนข้างเป็นกันเองกับผู้อ่าน
และยังได้กล่าวถึงชีวประวัติของท่านเองไว้อย่างละเอียดกว่าฉบับอื่นๆ ขณะที่ท่านอยู่ที่เอเฟซัส
ทิโมธีที่ท่านได้ส่งไปที่โครินธ์นั้นได้กลับมารายงานว่าทั้งจดหมายของท่านที่ฝากไป
(1 โครินธ์) และคำเตือนของทิโมธีเองไม่ได้ทำให้ชาวโครินธ์สำนึกผิดและไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของคริสตจักรดีขึ้นเลย
ดังนั้นแทนที่เปาโลจะไปเมืองโครินธ์ทางอ้อมตามหมายกำหนดการ เปาโลตัดสินใจลงเรือแล่นไปยังโครินธ์
เพราะท่านได้เคยเตือนไว้ว่า ถ้าเขาไม่ยอมฟัง ท่านจะมาต่อว่าพวกเขาต่อหน้า (1 คร
4.19-21) นี่เป็นครั้งที่สองที่เปาโลไปเมืองโครินธ์ ซึ่งการไปคราวนี้ทำให้ท่านเป็นทุกข์มาก
เนื่องจากบางกลุ่มต่อสู้ท่านอย่างรุนแรง (2 คร 2.1) เปาโลอยู่ที่เมืองโครินธ์ไม่นานก็ต้องรีบกลับเมืองเอเฟซัสเมื่อท่านกลับจากโครินธ์มายังเอเฟซัสไม่นานก็ได้ข่าวว่า
การไปโครินธ์ของท่านคราวที่แล้วไม่ได้ทำให้ฝ่ายต่อต้านดีขึ้น
แต่ยิ่งกลับทำให้พวกเขารวมตัวกันต่อต้านมากขึ้น ทำให้ท่านรู้สึกโกรธเคืองคิดจะไปโครินธ์อีก
แต่ก็ยับยั้งใจไว้โดยนึกว่า ถ้ารีบไปตอนกำลังโมโหท่านคงแสดงท่าทีรุนแรงมากไป (2 คร
1.23) ท่านจึงเขียนจดหมายอีกฉบับโดยใช้ถ้อยคำรุนแรงและบอกว่าจะลงโทษคนที่ไม่เชื่อฟัง
ไม่ให้เข้าร่วมในคริสตจักร โดยให้ทิตัสนำไป (2 คร 2.3-4, 7.8) จดหมายฉบับนี้ไม่ได้รวมอยู่ในพระคัมภีร์ของเรา(สูญหาย)
เปาโลสั่งทิตัสว่าถ้าเสร็จงานให้ไปพบท่านที่เมืองโตรอัส ท่านคอยทิตัสที่เมืองโตรอัสด้วยความกระวนกระวายใจ
อยากรู้ว่าชาวโครินธ์ยอมฟังคำว่ากล่าวของท่านหรือไม่ ท่านคอยทิตัสไม่ไหวจึงเดินทางไปคอยที่เมืองฟิลิปปีในแคว้นมาซิโดเนีย
เมื่อพบกัน ทิตัส ได้รายงานว่าจดหมายฉบับนั้นได้ผลดี ทำให้พวกต่อต้านเปาโลสำนึกผิด
ทำให้คริสตจักรโครินธ์เข้าสู่สภาพเรียบร้อย (2 คร 7.5-6) ท่านจึงเขียนจดหมาย 2
โครินธ์ ให้ทิตัสกับคริสเตียนอีกสองคนนำไปให้
ซึ่งเปาโลเขียนด้วยความปิติยินดี (2
คร 8.16-18)
และบอกเขาว่าท่านจะกลับไปเยี่ยมพวกเขาอีก (2 คร 12.14, 13.1)
1.2
จุดประสงค์
1)
เพื่อปกป้องสิทธิอำนาจการเป็นอัครทูตของเปาโลและการรับใช้พระเจ้าของท่าน เนื่องจากมีผู้สอนผิด ซึ่งอาจจะหมายถึงคริสเตียนชาวยิวที่ยังยึดถือลัทธิยิวอยู่
ได้แทรกซึมเข้าไปในคริสตจักร และชักชวนพี่น้องไม่ให้เชื่อถือในความเป็นอัครทูตของเปาโล รวมทั้งไม่ให้ยอมรับสิ่งที่ท่านได้ประกาศและสอนไว้
2) เพื่อแก้ข้อกล่าวหาที่ว่าเปาโลยักยอกเงินเรี่ยไร ที่นำไปช่วยเหลือพี่น้องที่กรุงเยรูซาเล็ม เนื่องจากมีคนกล่าวหาว่าท่านไม่สัตย์ซื่อกับเงินที่ท่านดูแล
3)
เพื่อยืนยันกับพี่น้องชาวโครินธ์ว่าท่านจะมาเยี่ยมพวกเขาอย่างแน่นอน และจะมารับเงินบริจาคที่ท่านเคยได้บอกพวกเขาให้รวบรวมไว้เพื่อนำไปช่วยเหลือพี่น้องที่กรุงเยรูซาเล็ม
4)
เพื่อเตือนและยืนยันว่าท่านจะมาจัดการกับผู้สอนผิดด้วยตัวของท่านเอง
1.3
ผู้รับ เปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้ถึงคริสเตียนที่คริสตจักรโครินธ์และแคว้นอาคายา
1.4
เวลาที่เขียน เปาโลเขียนจดหมายฉบับนี้ขณะที่ท่านอยู่ที่แคว้นมาซิโดเนีย
(อาจจะเป็นเมืองฟิลิปปี 2.13, 7.5, 8.1) เขียนขึ้นในราวปี คศ.56
หรือประมาณ 1 ปีหลังจากที่เขียนจดหมาย 1 โครินธ์
1.5
ลักษณะพิเศษ
1)
จดหมายฉบับนี้นับว่าแปลกในด้านรูปแบบการเขียน
ผู้อ่านสามารถสัมผัสถึงบรรยากาศของความรักความผูกพันอย่างแนบแน่นที่เปาโลมีต่อคริสตจักรโครินธ์ แม้ว่าบางครั้งพวกเขาจะถูกว่ากล่าวตักเตือนบ้างก็ตาม
2)
เป็นจดหมายที่เปาโลพูดถึงเบื้องหลังของตนเอง และการทนทุกข์ที่เป็นเหมือนการอวดอ้าง แต่เนื่องจากท่านจำเป็นที่จะต้องทำเพื่อปกป้องและยืนยันความเป็นอัครทูตของท่าน เนื่องจากมีคนบางกลุ่มสงสัยและไม่ยอมรับว่าท่านเป็นอัครทูต
2. โครงเรื่องของพระธรรม 2 โครินธ์
1.
เปาโลชี้แจงแนวปฏิบัติส่วนตัวและพันธกิจที่รับใช้ (บทที่ 1-7)
1.1
คำทักทาย บทที่
1.1-2
1.2
คำขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับการเล้าโลมยามทุกข์ยาก บทที่
1.3-11
1.3
ความสัตย์จริงของการดำเนินชีวิตและการรับใช้ บทที่
1.12-2.4
1.4
การยกโทษให้กับผู้ที่คัดค้านที่เมืองโครินธ์ บทที่
2.5-11
1.5
การทรงนำของพระเจ้าในการรับใช้ บทที่
2.12-17
1.6
ผู้เชื่อชาวโครินธ์ – เป็นตัวหนังสือจากพระคริสต์ บทที่
3.1-11
1.7
การเห็นพระพักตร์โดยไม่มีผ้าคลุมหน้า บทที่
3.12-4.6
1.8
ของมีค่าในภาชนะดิน บทที่
4.7-18
1.9
มุมมองเกี่ยวกับความตาย-ความหมายสำหรับคริสเตียน บทที่
5.1-10
1.10
พันธกิจแห่งการคืนดี บทที่
5.11-6.10
1.11
การวิงวอนของพ่อฝ่ายวิญญาณถึงลูกฝ่ายวิญญาณ บทที่
6.11-7.4
1.12
การพบกับติตัส บทที่
7.5-16
2.
การเรี่ยไรสำหรับธรรมมิกชนในกรุงเยรูซาเล็ม (บทที่ 8-9)
2.1
คำหนุนใจให้มีใจกว้างขวาง บทที่
8.1-15
2.2 ทิตัสและผู้ร่วมงานถูกส่งไปที่โครินธ์ บทที่ 8.16-9.5
2.3
ผลของการให้ด้วยใจกว้าง บทที่
9.6-15
3.
เปาโลพิสูจน์สิทธิอำนาจการเป็นอัครทูตของตน (บทที่ 10-13)
3.1
การปกป้องความเป็นอัครทูตและพันธกิจที่รับใช้ บทที่
10
3.2
เปาโลถูกบีบให้โอ้อวดอย่างโง่เขลา บทที่
11-12
3.3
คำเตือนสุดท้าย บทที่
13.1-10
3.4
การสรุปจดหมาย บทที่
13.11-14
3. บทสรุป
จัดการกับการติเตียนอย่างสมศักดิ์ศรีด้วยพระคุณของพระเจ้า
มีวิธีจัดการกับคำติเตียนอยู่
3 วิธี
1)
ยอมแพ้และเลิกรับใช้
2)
อดทนและรับใช้ต่อไปอย่างขมขื่น
3)
เอาชนะด้วยพระคุณของพระเจ้า
เราควรยึดแบบอย่างของเปาโล
แม้เวลาที่ลำบากเขาก็ยังมีพระคุณของพระเจ้าเพื่อคอยประเล้าประโลมใจ
เมื่อถูกกล่าวหาอย่างผิดๆก็ยังไม่ขาดความมั่นใจ
และเมื่อตัวเขาเองขัดสนและหิวโหยก็ยังคิดจะช่วยเหลือคนขัดสนในกรุงเยรูซาเล็ม
เมื่อเผชิญกับคนขี้อวดก็ยังถ่อมใจด้วยพระคุณพระเจ้าได้ ที่เปาโลสามารถทำได้เพราะเขารู้ว่าความอ่อนแอของเขาเปิดโอกาสให้พระเจ้าทรงสำแดงฤทธิ์เดชของพระองค์ในตัวเขาได้
- เมื่อมีคนมาติเตียนเรา
ก็มีแนวโน้มว่าเราจะยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง
จงใช้สถานการณ์ต่างๆเหล่านี้เป็นโอกาสทำให้เราเติบโตขึ้นในพระคุณพระเจ้าในการรับใช้ผู้อื่น
-
เมื่อความสามารถของเราถูกสงสัย
ความมั่นใจในการรับใช้ก็จะสั่นคลอนไปด้วย
-
เมื่อเราถูกมองว่าไม่สัตย์ซื่อ
การให้ของเราก็จะลดลงด้วยเช่นกัน
-
เมื่อมีคนโอ้อวดมาเปรียบเทียบกับเรา
เราก็จะโอ้อวดกลับไป
ขอให้ “หนามใหญ่ในเนื้อ”
เป็นเครื่องเตือนเราถึงความถ่อมใจ
ขอให้พระคุณพระเจ้าเปลี่ยนเราให้เป็นคนมีใจเมตตากรุณา
โดยมองข้ามคำติเตียนและความอ่อนแอของเรา
และเพ่งมองไปที่องค์พระเยซูคริสต์เจ้าของเรา
บทที่
1---------------บทที่ 7
พึ่งพา
|
บทที่
8---------------บทที่ 9
พึ่งพา
|
บทที่
10-------------บทที่ 13
พึ่งพา
|
พระคุณของพระเจ้า
|
||
เพื่อมี
ความมั่นใจ
ในการรับใช้
|
เพื่อมี
ความสามารถ
ในการให้
|
เพื่อรับ
การเสริมกำลัง
ในความอ่อนแอ
|
No comments:
Post a Comment