Thursday, November 7, 2013

พระธรรม 2 ยอห์น


1.  เบื้องหลังการเขียน

      1.1  ผู้เขียน  เชื่อและยอมรับว่าผู้เขียนคืออัครสาวกยอห์น  ท่านแทนตัวว่า ‘ผู้ปกครอง’ มีเหตุผลสนับสนุน คือ
                1. ความคล้ายคลึงของลีลาการเขียน รูปแบบของจดหมายฉบับนี้กับ 1 ยอห์น มีความคล้ายคลึงกัน
                2. จดหมาย 1 และ 2 ยอห์น มีเนื้อหาที่คล้ายคลึงกัน และกล่าวถึงสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกัน และกล่าวถึงอันตรายของผู้สอนเท็จเหมือนกัน
                3. จดหมายฉบับนี้สั้นมาก จึงไม่น่าจะมีใครหาเรื่องยุ่งยากเขียนขึ้นแล้วใส่ชื่อยอห์น

       1.2  จุดประสงค์   
                ในช่วง 2 ศตวรรษแรก พระกิตติคุณได้แพร่จากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง จนเกิดคริสตจักรท้องถิ่นขึ้นมากมาย เป็นผลเนื่องมาจากการรับใช้ของคน 3 ประเภทด้วยกัน คือ
                1. อัครฑูต เป็นผู้ที่ติดตามพระเยซูและเป็นพยานถึงการเป็นขึ้นมาจากความตายของพระองค์ อัครฑูตไม่อยู่ประจำคริสตจักรแห่งใดแห่งหนึ่ง แต่จะเดินทางสอนพระวจนะและประกาศไปตามเมืองต่างๆ
                2. ผู้เผยพระวจนะหรือผู้ประกาศข่าวประเสริฐ จะไม่อยู่ประจำคริสตจักรแห่งใดแห่งหนึ่งเช่นกัน คนเหล่านี้จะได้รับการต้อนรับ เลี้ยงดูจากคริสตจักรต่างๆที่พวกเขาแวะเวียนไปถึง
                3.  ผู้ปกครอง เป็นตำแหน่งที่อยู่ตามคริสตจักรต่างๆ และดูแลคริสตจักร
 
                ดังนั้นการรับใช้เช่นนี้จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้  ยกเว้นพวกอัครฑุต เพราะเป็นที่ยอมรับของคริสตจักรต่างๆ และถือว่าคำสอนของเขามีสิทธิอำนาจสูงสุดในคริสตจักร แต่สำหรับผู้เผยพระวจนะที่เดินทางไปตามคริสตจักรต่างๆนั้น ได้รับสิทธิพิเศษและการเลี้ยงดูจากคริสตจักรอย่างดี     ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นได้เนื่องจากลัทธินอสติคระบาดในยุคนั้น พวกนี้ได้เดินทางไปตามคริสตจักรต่างๆ และรับการดูแลจากคริสตจักรและคริสเตียนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์  ดังนั้น  จดหมาย 2 ยอห์นนี้มีจุดประสงค์ของการเขียนคือ เพื่อต้องการเตือนคริสตจักรให้ระวังคนสอนเท็จ และได้ออกคำสั่งให้คริสตจักรอย่าต้อนรับคนเหล่านี้

       1.3  ผู้รับ    ยอห์นเขียนถึงผู้รับว่า ‘ท่านสุภาพสตรีที่ทรงเลือกไว้’ ซึ่งเป็นปัญหาที่นักวิชาการถกเถียงกันว่า  สตรีที่ทรงเลือกไว้นั้นคือใคร ??  ซึ่งมีการตีความหมายกัน 2 แบบ คือ
               1. ตีความหมายตามตัวอักษร ในกรณีนี้อาจจะหมายถึงสตรีคนใดคนหนึ่งที่เป็นที่รู้จักดีของยอห์น ซึ่งอาจจะเป็นผู้นำ หรือมีบทบาทอย่างใดอย่างหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับและมีอิทธิพลต่อคริสตจักร
               2. ตีความหมายจากการเปรียบเทียบ ถ้ามองคำว่า ‘สุภาพสตรีที่ทรงเลือกไว้’ ในลักษณะของการเปรียบเทียบ เราอาจกล่าวได้ว่า ยอห์นคงหมายถึงคริสตจักรท้องถิ่นแห่งใดแห่งหนึ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของท่าน ท่านเป็นห่วงว่าพวกครูสอนเท็จจะเข้าไปและสร้างความยุ่งยากให้  และอีกอย่างคือ จดหมายฉบับนี้ถูกเขียนขึ้นในช่วงเวลาที่คริสเตียนถูกข่มเหง ดังนั้นอาจเป็นไปได้ว่าการใช้คำขึ้นต้นในลักษณะนี้เป็นรหัสลับที่รู้จักกันในเฉพาะกลุ่ม คนที่ไม่รู้เมื่ออ่านแล้วก็จะคิดว่าเป็นจดหมายธรรมดาที่ส่งไปถึงคนรู้จักกันเท่านั้น

       1.4  เวลาที่เขียน   เขียนในช่วงเวลาเดียวกับ 1 ยอห์น คือจากเมืองเอเฟซัส ประมาณปี ค.ศ.85-95

       1.5  ลักษณะพิเศษ
               1. เป็นจดหมายที่มีลักษณะเป็นส่วนตัวที่ผู้ใหญ่เขียนไปหาผู้ที่อยู่ใต้การดูแล
               2. เป็นจดหมายที่เตือนแบบป้องกันเพื่อไม่ให้ถูกหลอกลวง การเขียนเป็นไปในลักษณะการตอบสนองต่อสถานการณ์ มากกว่าลักษณะการเปิดเผยคำสอนหรือหลักศาสนศาสตร์
               3. เนื้อหาของจดหมายแสดงให้เห็นว่า ในสมัยนั้นมีการจาริกไปของผู้ประกาศ คนเหล่านี้ไปตามเมืองต่างๆ และได้รับการต้อนรับจากพี่น้องคริสเตียนในเมืองนั้น ให้อาหาร ที่พัก และเงินทองสนับสนุนให้เดินทางประกาศต่อไป
               4. เนื้อหาของจดหมายแสดงให้เห็นถึง น้ำใจแห่งการต้อนรับและเอาใจใส่ผู้รับใช้ของพระเจ้าของพี่น้องคริสเตียนในยุคแรก ในขณะเดียวกันก็มีผู้แอบแฝงหาผลประโยชน์แก่ตัวเช่นเดียวกัน

2.  โครงเรื่องของพระธรรม 2 ยอห์น

                1. คำทักทาย                                                                           ข้อ 1-3
                2. ความคิดเห็นชื่นชม                                                             ข้อ 4
                3. คำหนุนใจและตักเตือน                                                       ข้อ 5-11
                4. สรุป                                                                                    ข้อ 12-13

3.  บทสรุป

             พระธรรม 2 ยอห์น แบ่งออกเป็น 2 ตอน

 ตอนที่หนึ่ง (1-6)  บอกให้เราประพฤติตามความจริงและความรัก เราต้องรักซึ่งกันและกัน และต้องทำตามพระบัญญติของพระเจ้าในพระคัมภีร์

ตอนที่สอง (7-13) บอกไม่ให้เราให้การต้อนรับผู้ที่ไม่ได้ประกาศความจริง  ความรักต้องสมดุลกับความจริง ถ้าเรามีความรักแต่ไม่มีความจริง เราคงให้การต้อนรับแม้กระทั่งพวกลัทธิเทียมเท็จด้วย

 

 

No comments:

Post a Comment